แคร่ไม้ไผ่

เห็นควรเปิดแคร่ใหม่สักที
มุดเข้าไปจัดการลิ้นชักอักษรที่ยุ่งเหยิงเละตุ้มเป๊ะไม่รู้อะไรเป็นอะไร
โผล่อีกทีหัวฟู..เต็มด้วยหยากไย่
..
..
ไปอาบน้ำอาบท่า
หามื้อเที่ยงเติมท้องล่ะ!

About ธุลีดิน

just wanna write and live simple life am I a dreamer ?

Posted on กันยายน 28, 2007, in ● แคร่ไม้ไผ่. Bookmark the permalink. 134 ความเห็น.

  1. ฮ่า.. ท่านปรับแต่งได้เรียบร้อยแล้ว.. หมดไปครึ่งวันเลยนะขอรับ.. ๕๕ ว่าจะทำบ้างเหมือนกัน ตอนที่ไปเห็นที่บ้านท่านโซล

    แต่.. คิดไม่ได้.. แบ่งไม่ถูก เลยแปะไว้ก่อน

  2. อะนะ..เจิมแจ่ม
    ศัพท์วัยจ๊าบฤาขะรับ?

  3. สวัสดีค่ะ ท่านเจ้าของกระท่อม

    ตอบข้อถามที่ถามว่า ทำไมข้าพเจ้าจึงนั่งยองๆ อ่าน
    มันสะดวกดีเจ้าค่ะ หากไปอยู่บนแคร่ อาจจะเป็นแนวเอนหลังได้ ฮ่าฮ่า

    ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

    ^^

  4. ลิ้นชักของท่านทำให้กระผมคิดถึงห้องสมุด

    เขาเรียกอะไรนะ ที่บรรจุบัญชีรายชื่อหนังสือ แยกตามหมวดหมู่…

    เคยไปค้นหางานที่ม.ธรรมศาสตร์ กว่า 10 ปีที่แล้ว

    เขาใช้คอมพ์ฯค้นหา ทว่าวัยนั้นข้าพเจ้าใช้คอมพ์ไม่เป็น

    กลัว… กลัว…

    ชอบแบบเก่ามากกว่าขอรับ

    ราตรีสวัสดิ์-ยกแก้ว !

  5. อรุณสวัสดิ์ขอรับท่าน pat พี่ท่านประทีป

    อา..ตู้เก็บหัวเรื่อง..แผ่นป้ายรายชื่อหนังสือ..เรียงตามหัวเรื่อง..หรือชื่อผู้แต่ง..แบบดิวอี้..

    สิบปีแล้วหรือขอรับ..ฟังเหมือนยาวนาน
    แต่กลับคล้ายชั่วลมหายใจในความเป็นอดึต

    พี่ท่านกำลังคร่ำครวญหวนคะนึงถึงอดีตอยู่ใช่ไหมขอรับ?
    โอ..เช่นนั้นละอ่อนน้อยขอบาย…

    เห็นภาพนั่งยองยองท้าวคางอยู่ข้างแคร่เจียวขะรับท่าน pat
    ขอบคุณราตรีสวัสดิ์จากท่าน คืนผ่านข้าพเจ้าหลับสบายไม่มีฝันดีฝันร้ายผ้องพาน..ตลอดคืน..ขอบคุณ..ขอบคุณ..

    คารวะ

  6. เสาร์สวัสดี

    อาการภูมิแพ้ ฤา ท่าน
    ข้าพเจ้าออกจะแข็งแรงมาแต่เด็ก
    ไม่เคยมีอาการฟึดฟัดในยามเช้า
    แต่เมื่อสาม-สี่ปีก่อน ยามตื่นมักปวดเฮด คล้ายอยากนอนต่อ แต่ไม่ใช่ ซ้ำยังคัดจมูกอีกนิดหน่อย
    ในที่สุดหาวิธีได้ ต้องซัดน้ำร้อนๆ จากกาแฟดำไร้สารหวานใด จึงช่วยทุเลา (โอยยย แก่)

    แปลกแต่จริง ข้าพเจ้าเข้ามาที่นี่เกือบทุกวันจริงๆ ด้วยเจ้าค่ะ ^^
    ขอพลังจงอยู่กับท่าน (ยืมหนังสตาร์วอร์มาจ้ะ)
    ขอบคุณเช่นกัน

    อรุณสวัสดิ์

  7. โอ..เป็นเพราะเหตุเช่นนี้ละกระมัง ฟังท่านกล่าวข้าพเจ้าจึงได้หวนคิดถึงช่วงเวลาครั้งข้าพเจ้าแต่ละวันต้องทนทุกข์ทรมานกว่าจะขยับลุกจากที่นอนหมอนมุ้งได้ต้องทำพิธีร่ำลาแล้วร่ำลาอีกอย่างอาลัยอาวรณ์

    ยามนั้นข้าพเจ้าหารู้ตัวเองไม่ว่าเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ หากรู้เสียแต่ตอนนั้นว่าความอาลัยอาวรณ์ไม่อยากลุกจากที่นอนเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ข้าพเจ้าจะได้อธิบายแม่ให้รู้เสียแต่เนิ่น ไม่ปล่อยให้แกคิดไปเองแล้วตีโพยตีพายเสียยังกับว่าข้าพเจ้าเป็นคนคร้านโรงเรียนเช่นนั้น

    จำเนียรกาลผ่านมา..โรคชนิดนี้คงไม่อาจหายขาด ทุกเช้าข้าพเจ้าจึ่งยังพลิกตัวหลับต่อจนตะวันฉายส่องเสียร่ำไป

    ต้องเป็นเพราะโรคภูมิแพ้แน่ ๆ

  8. จ๊าบสมวัยไงเจ้าคะ ท่านดิน แหะๆ

    อรุณสวัสดิ์ขอรับ

  9. -มาแว้ววววว…สวัสดีวันอาทิตย์-

    มาตอบคำถามที่ท่าถามไว้ที่บ้าน ไม่ทราบว่าท่านเข้าไปอ่านหรือยัง

    ถ้ายัง…ไม่ต้อง ผมมาตอบที่นี่เลยดีกว่า

    * * *

    Ctrl + F = คำสั่ง Find

    จากนั้นใส่คำที่ Pop-up แล้วเลือก Find next มันจะหาชื่อนั้นไปเรื่อยๆ ขอรับ

    ส่วนการแก้ชื่อนั้นทั้งหมด ครั้งเดียวรวดต้องระวังนะครับว่า คำนั้นมันจะไม่ไปโยงเอาคำอื่นติดมาด้วย

    ฉะนั้น เวลาท่านใส่คำ ขอให้ใส่เต็ม ๆ อย่ากัก เช่นอาคำว่า สมชาย ดันใส่แค่ สม หรือ ชาย อย่างนี้มันจะไปพ่วงเอาตัวอื่นมาเป็นคำได้ เวลาแก้มันจะเปลี่ยนหมด

    สำหรับการแก่รวดเดียว คือ คลิกที่ Replace : ใส่คำที่ต้องการหา, คำที่ต้องการแก้ (ถูกต้อง) ที่ด้านล่าง Replece with :

    แก้ทีละจุด คือ Replace
    แก้รวดเดียว คือ Replace All

    * * *
    การนับคำ หรือตัวอักษรทั้งหมด

    ท่านคลิกขวาที่ไฟล์งานนั้น ๆ

    เลือก Propperties

    เลือกแทบ Summary

    จากนั้นจะมีรายละเอียดให้ขอรับ

    อ้อ——–

    ทางง่ายเลย เปิดไฟล์งานมา หรือ กำลังทำงานอยู่ คลิกที่ เมนูที่Toolbar>Tools>Word Count

    จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมารายงานทันทีโดยพลัน

    ด้วยมิตรภาพ

  10. อ่านเรื่องขวัญข้าว ทั้งส่วนของท่าน และท่านพี่สาม…

    อ่านงานรำพึง-รำพันของข้าพเจ้าเอง

    พบว่า ห้วงยามนี้ของปีที่แล้ว น้ำหลาก ท่วมนาข้าวเสียเป็นอันมาก…

    ห้วงยามนี้ของปีนี้ น้ำก็ปริ่มเช่นเดียวกันครับ ที่กทม.ก็แทบล้นตลิ่ง

    เรือข้ามฟากลอยสูงเทียบโป๊ะ…ก็ที่ที่ท่านข้ามนั่งนั่งละเลียด 100 pipe นั่นแล…

    อากาศวิปริต เพราะมนุษย์เปรต ๆ

  11. วุ้ยยย ..
    กระท่อมนี้หยังมาไฮเทคแต้เนาะ ..

    ผ่อเลาะ ๆ
    ข้า’เจ้าจะเอาชะลอมวางตี้ไหนดีละน้อ ..

    เอ้า ! นี้เน้อ อ้ายดิน ของที่สั่งไว้เอามาฮื้อแล้วนา
    แล้วนี่ก่อไม้บรรทัด ของแถมที่ว่าเน้อเจ้า .. 😀

    .
    .

    ปล. ทุ่งนาแถวบ้านข้า’เจ้า แห๋มบ่เมิน ก็จะได้เก็บเกี่ยวแล้วล่ะท่าน

  12. ลืมตาตื่นดึกดื่นค่อนคืนสวัสดิ์ขอรับ

    น่าอิจฉาคนเมืองที่มีภาษาน่ารักเช่นนี้ เจอคำเมืองทีไรอารมณ์ดีทุกทีไป
    แหมบ่เมินข้าพเจ้าจะหัดอู้บ้างเน้อ
    ..
    ..
    ตอนนี้กำลังอู้เกลานิยายอยู่เพราะมันทรมานตาข้าพเจ้าเต็มทนแล้ว ชักจะคิดได้ว่า น่าจะพริ้นออกมาแล้วเกลายังจะดีเสียกว่าอ่านจากจออย่างนี้..หรือว่าไงขอรับท่านประทีป?

    คารวะ

  13. อ้อ..ผ่อเลอะ..ผ่อเลาะ..เนี่ยอะไรอ่าขะรับ?

  14. สวัสดีค่ะ ท่านธุลีดิน

    ข้าพเจ้าคิดว่า การพิมพ์ไปแก้ไปในคอมฯ นั้น ก็สะดวกอยู่ในระดับหนึ่ง
    หากแต่ยามเหลาเกลาเกลี้ยง ข้าพเจ้าชอบวิธีการพิมพ์ลงบนกระดาษออกมาอ่านมากกว่าเจ้าค่ะ
    ทั้งพกพาง่าย และเมื่อละจากหน้ากระดาษไปพักสายตานานเท่าไหร่ก็ได้ ไม่เปลืองไฟเปลืองแบทฯ เจ้าค่ะ

    ^_^ แอบมาอู้เจ้า

  15. “หยากไย่”
    ไม่ใช่ “หยักไย่”
    จับตีมือดีไหม
    ลูกใครกันหว่า

    ตอนเข้าโรงเรียน
    คงไม่ตั้งใจเรียน..สิท่า
    คุณครูดุด่า
    คงไม่เคยสนใจ

    วันนี้อารมณ์ดี
    แวะมาแซวเล่น
    ทานข้าวมื้อเย็น…
    อร่อยไหม?

    ถ้าไม่อร่อยขอบอก..
    ผงชูรสอ่อนไป
    หรือไม่เห็นหน้าหวานใจ
    จึงกินข้าวไม่ลง

    ไปก่อนล่ะท่าน
    ก่อนที่หลังจะเดี้ยง
    จะคอยมามองเมียง
    อย่าเพิ่งไล่ส่ง

    แคร่ไม้ไผ่บ้านท่าน
    เห็นแล้วนั่งไม่ลง
    กลัวนั่งแล้วจะหลง
    น้ำคำ…

  16. บ่ มีอะไร แว๊บมาเล่น

    ไปทำงานต่อล่ะเน่อ

  17. อ่ะ โดนๆๆ
    ถูกตีมืออีกแล้ว

    สม!

  18. ขอบคุณท่านย่า
    กรุณาเตือนพร่ำ
    หลานนี้ไม่จำ
    ทำท่านอ่อนใจ

    แต่นี้จะหมั่น
    ขยันอ่านเขียน
    ศึกษาเล่าเรียน
    วิชาเขียนไทย

    ไม่ให้เสียแรง
    ท่านย่าพร่ำสอน
    ทั้งยามหลับนอน
    ขอพรอวยชัย

    ให้ท่านฟิตปั๋ง
    ยังกับ..ยังกับ..
    ยังกับอะไรดีหวา..
    ..
    ..
    เอาเป็นว่า..
    ..
    ยังกับนางร้าย!
    เรื่ยวแรงเหลือหลาย
    ด่าได้เรื่อยไป

    ร่างกายแข็งแรง
    แกร่งทั้งในนอก
    ตีเข่าตีศอก
    ออกแม่ไม้มวยไทย

    อ้อ..ต้นเดือนล่ะสิ
    มีตังค์เต็มเป๋า
    จึ่งมีแรงเย้า
    ข้าพเจ้าเดาถูกไหม?

    เช่นนั้น..แจ่มแจ๋ว
    แด๋วอย่าเพิ่งหนี
    ยืมตังค์หน่อยสิ
    นะท่านย่าคนดี..ว่าไง?

  19. โอ..ท่าน pat ขะรับ
    ร้านแถว ๆ ตำบลข้าพเจ้าพำนัก ขูดเลือดค่าพริ้นเสียซิบ ๆ เชียว
    พริ้นสองร้อยหน้าแพงกว่าซื้อหน้งสือเสียอีก
    ข้าพเจ้าได้แต่ทำตาปริบ ๆ

    ท่านอัมที่เคารพ..สองทุ่มครึ่งท่านยังไม่เลิกงานอีกฤาขะรับ?
    สงสัยทั่นจะเป็นกรรมการผู้จัดการแน่ ๆ ใช่ไหม? ใช่ไหม?

    พี่สองขะรับ..มีท่านย่าคอยตีมือเช่นนี้ข้าพเจ้าจะเขียนผิดให้ทุกวันเจียวทั่น

    คารวะ

  20. เห็นเหล่าท่าน
    ขยันค่อนแคะ
    แงะบทกลอน
    สอนสั่งกัน

    ครั้นผมจะนิ่งเฉย
    ทำเลยไปเสีย
    เกรงว่ามายด์เดียร
    จะละเหี่ยใจ

    จึ่งต้องขอแจม
    แถมถ้อยวจี
    ในกระทู้แถวนี้
    ให้พี่ๆ เริงใจ

    ฟังคำย่าสอน
    ในกลอน “หยากไย่”
    แสนตื้นตันใจ
    ด้วยมีใครคอยเตือน

    เมื่อหลายวันก่อน
    หลานร่อนคำผิด
    ย่ายังสะกิด
    “รักแร้” หอมเตือน

    หันมาทางนี้
    มองดูพี่เถ้า
    น่าเศร้าใจแสน
    ยากแค้นเงินทอง

    เที่ยวเดินด้อมๆ
    รอบกระท่อมเก็บผัก
    หักหน่อ-เด็ดช่อ
    พอได้ลวกจิ้มน้ำพริก

    นั่นคงขัดเขิน
    ขาดเงินซื้อยา
    ถึงได้เอ่ยวาจา
    ยืมเงินท่านย่า

    พลีสส พลีสส พลีสส
    ได้โปรดเถิด

    โปรดท่านย่าเมตตา
    หยิบยื่นกรุณา
    มาสักห้าพัน

    หลานดิลล์และหลานสอ
    จะขอสัญญา
    ว่าจะใช้เงินนั้น
    ซื้อแต่ของสำคัญๆ

    แต่ว่าย่าจ๋า
    คราเดินผ่านตู้แช่
    แลเห็นน้ำขมๆ
    หลานขอเผลอใจชมสักสามขวด

    พวกหลานขอสัญญา
    ว่าจะไม่ให้เมา
    เอาแต่แค่พอมึน
    พอให้ยืนไม่เที่ยง

    แล้วจะกอดคอ
    อี่อ้อเพลงหวาน
    คลานกลับขนำ
    ไปนอนฮึมฮำๆๆ … กันสองตัว เอ๊ย! สองคน

  21. ฝากไว้ก่อน
    เดี๋ยวเย็นนี้เจอกัลล์

  22. ใคร่ถาม.. ท่านดินสายตาสั้นหรือเจ้าคะ? หรือว่า สายตายาว (ตามวัย)? แบบว่า.. “หลายมีก่อน” เหอๆ

    เช้านี้ เข้ามาช่วงสร้าง “พลังขับเคลื่อน” turbo .. เริ่มเปิดเทอม การบ้าน อ่านหนังสือ ทำรายงานส่ง คงไม่ได้แวะมาป่วนแบบยาวๆ แต่ก็ดองโพสไว้อ่านเสมอ ๕๕๕ (ดอง นะ ดอง อ่านเมื่อเวลาอำนวย อย่างเช้านี้ เจ้าค่ะ อิอิ)

    ๘ โมง ๕๐ สวัสดิ์ขอรับ

  23. อ่า..ยืมตังค์ดื่มเบียร์หรือ..?
    อย่างนั้นท่านย่าคงไม่ให้ยืมดอกขะรับ..ท่านเลี้ยงเลย!
    ..
    ..
    เจอกัลล์..ฝากไว้ไม่ต้องเอาคืนนำเจ้าคะ
    ..
    ..
    ขอบพระคุณแพงแพงขะรับท่านมุก
    ข้าพเจ้าหน้าหงาย..แทบตกเก้าอี้
    โอ..แม่เจ้า..นั่นน่ะตอนเขียนข้าพเจ้าเกลาแล้วเกลาอีกเป็นวันนะทั่น
    ด้วยความที่ในชีวิตน้อย ๆ ไม่เคยเขียนคุยกับนักเขียนใหญ่ บระจงเสียยิ่งกว่าไอ้ขวัญเขียนจดหมายอ้อนแม่เรียม

    สองปีผ่าน..ก่อนโพสท์ข้าพเจ้าดูอีกรอบ ให้ตายสิ..ย่องตอด ข้าพเจ้าไม่เห็น!

    คิดว่าจะไม่แก้ขะรับท่านมุก..
    เพราะนั่นคือ ต้นร่างเดิม ๆ ที่ส่งไป ‘คุยกับวินทร์’
    อย่างน้อยจะได้คอยย้ำเตือนว่าความสับเพร่าอันข้าพเจ้าเคยรักษาไว้เช่นไร
    บัดนี้ยังคงรักษาไว้อย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปรแม้แต่น้อย

    ขอบคุณสายตาแห่งมิตรไมตรีที่มีให้เสมอมา

    คารวะ

  24. สวัสดีขอรับ

    ขออนุญาติหย่อนตูดนั่งที่แคร่ไม่ไผ่แห่งสักเดี๋ยวนะขอรับ กำลังมองหากระบวยตักน้ำจากโอ่งดินที่ท่านตั้งไว้ริมแคร่อยู่ รู้สึกกระหายน้ำมากมายเลยขอรับ อ่า..เจอแระๆ น้ำฝนเย็นๆเจือรสเค็มปะแล่มๆ สงสัยลมฝนคงหอบไอเกลือเอามาจากทะเลนะท่าน

    ช่วงนี้ไม่เป็นอันทำอะไรเลยขอรับ นอกจากเลี้ยงลูก ภรรยาที่เคารพเดินทางขึ้นๆลงๆกรุงเทพฯ – พิดโลก เป็นว่าเล่น ก็ไปหางานทำน่ะขอรับ หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการหางานในจังหวัดอันห่างไกลนี้

    กระผมและปู่จึงต้องรับหน้าที่ดูแลลูกไปโดยปริยาย แรกทีเดียวคิดว่าง่าย ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเลี้ยงเด็กคนนึงมันมีอะไรมากมายก่ายกอง ผมรับหน้าที่ป้อนข้าว ปู่รับหน้าที่หาข้าว ผมรับหน้าที่กล่อมนอน ปู่รับหน้าที่ชงนมใส่ขวด เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ได้โปรดรับเสียทีสิลูก ป๊าโคตรง่วงเลย ขอนอนไปพร้อมๆกันได้ไหมเนี่ย ผมก็กล่อมไปด้วยใจอันหวาดหวั่นเพราะหากว่าลูกสาวดูดนมจนหมดขวด แล้วคาถาที่ผมแห่กล่อมคลายมนตร์ขลัง เป็นอันว่าหมดสิทธิ์นอน ส่วนปู่ของเธอน่ะหรือขอรับ พอส่งเจ้าสาวเข้าหอแล้วแกก็เปิดไป ไขว่ห้างอ่านหนังสือพิมพ์

    กระผมใจจดใจจ่อรอเวลาแม่เลิกงานกล้บบ้าน ผมจะรีบส่งไม้ผลัดหน้าที่ให้แม่รับผิดชอบทันที แล้วผมก็แอบมางีบสักชั่วโมง พอตื่นก็ล้างหน้าล้างตา ไปป้อนข้าวลูกอีกรอบ ป้อนเสร็จผมจึงจะมีสิทธิ์กินข้าว กินสิทธิ์ผมก็รีบแจ้นขึ้นบ้านอาบน้ำ เปิดไฟโคมอ่านหนังสือและคอยฟังเสียงว่าคืนนี้ลูกสาวจะงอแงไหม ถ้างอแงผมก็จะรีบกระดืบๆๆๆๆ ลงกระไดบ้าน ขึ้นรถเข็นไปเคาะประตูบ้านใหญ่ เฝ้ากล่อมจนกว่าลูกจะหลับแล้วก็เข็นรถ กระดืบกาย เข้าบ้านตัวเอง เป็นอย่างนี้มาร่วมสิบวันแล้วขอรับ

    นี่ยังไม่นับงานบ้านชนิดปัดกวาดเช็ดถู ที่ผมต้องจัดการในบ้านตัวเองอีกนะขอรับ หากปล่อยให้มันผ่านไปหลายวันโดยไม่ทำความสะอาดมันเลย ในขณะที่หลับสบายอยู่ อาจมีมดตัวเล็กชนิดที่พอมันกัดแล้วจะคันไปทั้งคืน มันก็มาตอมหัวตอมหูอยู่ไม่ขาด

    กระผมกระดืบ ๆ กวาดบ้าน ตะโกนบอกพ่อให้ซักผ้าขี้ริ้วมาให้ แล้วผมก็ถูบ้าน เหนื่อยชิบเป้งเลยขอรับ

    หากท่านมาเห็นสภาพของกระผมตอนนี้ท่านคงคิดว่ากระผมเป็นผีดิบแน่ๆ

    นี่ก็ใกล้เวลาที่ลูกสาวจะตื่นแล้ว
    คงต้องไปก่อน ตูดยังไม่ทันหายร้อนเลยท่าน

    สวัสดี

  25. ที่กทม.

    ไม่ยักเห็นห่าฝนนาน ๆ สักที

  26. ของเล่นเจ้าค่ะ 😀

    Twitter

    ลองเล่น เมื่อว่างจริงๆ นะเจ้าคะ.. ๕๕๕

  27. สวัสดีเจ้าค่ะท่านดิน

    นอกจากจะติดนิสัยชอบย้ายบล็อกแล้ว เดี๋ยวนี้ท่านพัฒนา ย้ายขนำเป็นว่าเล่นเหมือนผีตองเหลืองเลยหรือเจ้าคะ ฮ่า ฮ่า

    ขนาดท่านปวดแขนยังมีแรงร่ายยาวได้เป็นคุ้งเป็นแคว ข้าพเจ้าคงต้องขอยอมแพ้แล้วเจ้าค่ะ ขอคารวะ
    นี่แหละหนาเขาว่าแข่งเรือแข่งพายน่ะแข่งได้ แต่แข่งบ้าน้ำลายถุยน้ำหมาก แข่งไม่ได้

    ตกลงท่านย้ายไปนอนขนำหลังไหนกันเจ้าคะ ข้าพเจ้านึกภาพไม่ออก จากปากทางคันนาไปยังบ้านท่าน นอกจากขนำหลังที่มีห้องน้ำในตัว (ฟังดูหรูใช่เล่น อิอิ) ที่ท่านทำไว้ให้จิ้งจกไปถ่ายเรี่ยราด ข้าพเจ้ายังนึกไม่ออกเลยเจ้าค่ะ ว่ามีหลังไหนอีก (แหะแหะ ความจำข้าพเจ้าไม่ค่อยดี แต่ท่านคงชินแล้ว คนแก่ก็อย่างนี้แหละ หลงๆ ลืมๆ )

    น่าเสียดายขนำหลังเดิม ทั้งทำเล ทั้งโครงสร้างน่ารักน่าอยู่ทีเดียว ถ้าขายนวนิยายได้ค่อยซื้อไม้มาสร้างใหม่แล้วกันนะท่าน (ฮา) ส่วนหลังนั้นนึกเสียว่าบริจาคทานให้มดให้ปลวกมันไป ดีเหมือนกัน ปลูกหลังใหม่ขอหลังใหญ่กว่าเดิมนะเจ้าคะ เผื่อว่างๆ จะพาสหายบ้านหนอนไปอาศัยนอน

    หลังจากเขียนวิจารณ์กระบี่ฯ ให้ท่านเสร็จ ข้าพเจ้าก็มีนู่นนี่ให้ขีดเขียนไม่หยุดหย่อน ทั้งงานก้าวฯ งานแปล แต่งกลอนให้คุณอัมโปะ อยากมานั่งตะบันหมากคุยกับท่าน ก็ทำไม่ได้ อาทิตย์นี้ข้าพเจ้าค่อยมีเวลาหายใจหายคอหน่อย หลังจากยกภูเขาออกจากอกน้อยๆ ไปทีละลูกสองลูก

    เมื่อเช้านี้ข้าพเจ้ารู้สึกฟิตปึ๋งปั๋งดึ๋งดั้ง คิดว่ากลับมาถึงบ้านจะเขียนคุยกับท่านให้น้ำหมากกระจายทีเดียว ปรากฎข้าพเจ้าหมดแรงเคี้ยวหมากตั้งแต่เที่ยงแล้วเจ้าค่ะ ช่วงนี้งานเยอะเหลือเกิน แถมน้องที่แผนกลาพักร้อน ข้าพเจ้าแทบอยากจะมีสิบเศียร สิบกร

    แค่นี้ก่อนนะเจ้าคะ ตอนนี้ข้าพเจ้าปรับเปลี่ยนตารางเวลาในการใช้ชีวิตใหม่
    นอนเร็วขึ้น เพื่อจะได้ตื่นแต่เช้ามาแปลงาน

    น้ำหมากเลอะปากแล้ว………..ควรไป
    ว่างจะแวะมาใหม่…………..เมื่อยแล้ว
    ดั่งมิตรจิตมิตรใจ…………..ใครห่อน ทิ้งลง
    คราวหน้าท้ายกแก้ว…………ดื่มร้อย จอกชา

  28. อนุโมทนาขอรับท่านย่า
    เป็นนักแปล..ก็ต้องแปลงาน
    หากเป็นนักแปล..แต่ไปขายปาท่องโก๋
    ก็คงไม่ใช่นักแปล
    คิดแล้วข้าพเจ้ายังอดขัดใจสหายที่เคารพรักไม่หาย
    เป็นนักเขียน..แต่ไปขายเซเว่น
    ได้ไง!
    ..
    ..
    แต่เอ..เอกกวียังขายหมี่เป็ดเลยนี่นา
    ..
    อะนะ

    ☉น้ำหมากเลอะปากแล้ว…ปล่อยไป
    คงไม่นานเพียงไร………….แปดเปื้อน
    น้ำจิตสิรดใจ………………ยากปล่อย ปละเลย
    เยี่ยงใดฤาจักเยื้อน……….เปรียบยิ่ง ไมตรี ฯ

  29. น้ำหมากหากจะเลอะ………..ช่างปะไร
    ไม่ได้หนักอกใคร………….อกเพื่อน
    ด้วยอื่นหมื่นน้ำใส………….ใจเจ้า ย่านาง
    ชะล้างคราบแปดเปื้อน……….หมดสิ้น คราบนั้น

  30. “มิตรแท้เป็นสิ่งสำคัญข้อต้นในทางของการประพันธ์” สินในหมึก/ยาขอบ

    ในกระท่อมนี้ มีบรรยากาศอย่างที่้ท่านว่าไว้จริงๆ

    🙂

    วันพระสวัสดิ์ค่ะ

  31. ท่านpat ขะรับ
    ไม้ขีดไฟ
    ไม้ขีดไฟ
    ..
    ..
    แบบว่าไฟแช็กหมดน่ะขะรับ
    ไม่มีอะไรจุดเตา

    ราตรีสวัสดิ์เน้อ

  32. เพิ่งรู้ว่าเป็นไพ่ยิปซี ไม่เบาเลยนะขอรับ 🙂

  33. อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านจิตปัน..ท่านตื่นเช้าดีจริง
    โผล่มาเช่นนี้แสดงว่าน้องพลอยภาคสองมาแย้วใช่ไหมขะรับ?
    (แด๋วหลังมื้อเที่ยงจะแวะไปดู)

    -ยิปซีดิลล์-

  34. ผ่อเลาะ ๆ กระท่อมหลังนี้นอกจากจะไฮเทคแล้ว
    ก่อยังมี อภิมหากวี มานั่งเสวนากั๋นบ่อได้ขาดแห๋มโตยนิ

    หยังมาดีแต้ดีว่า จะอี้น๊อ

    .
    .

    ขออภัยที่มาตอบช้านะคะท่านดิน “ผ่อเลาะ ๆ” คือคำอุทานที่ชาวเหนือใช้พูดในความหมายประมาณว่า “ดูสิ ๆ” นั่นแหละค่ะ .. 😀

  35. โอ..ดูเหมือนว่าชาวเหนือจะรุ่มรวยทางภาษาเสียจริงเจียวนะขะรับสหายท่านเจี๊ยบเจี๊ยบ ผ่อเลอะ เผ่อเลอะ น่ารักดี (ว่าแต่ยิ้มปากกว้างเนี่ย ใส่เครื่องหมายใดก๋า?)
    ..
    ..
    นาน ๆ ได้ร้อยกรองของป๋าสองสักทีขะรับ
    ไม่เคยฉายที่ไหนนะเนี่ย หุ หุ ผ่อเลอะ ผ่อเลอะ

  36. เข้ามาเยี่ยมกระท่อมนี้ก็ชวนให้มีอารมณ์อยากเขียนอะไรดีๆเหมือนกันขอรับ 🙂

  37. อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านจิต

    คำ ‘ชวนให้อยากเขียนอะไรดี ๆ ‘ ไพเราะนัก
    ทุกครั้งที่นิ้วอันมู่ทู่ของข้าพเจ้าย่ำเดินไปบนแป้นอักษร
    ข้อหนึ่งที่มันหันมาถามข้าพเจ้าอยู่เสมอ
    “ที่เขียนเนี่ย..คนอ่าน(หากมี) เขาไม่เสียเวลาเปล่านา”
    ข้าพเจ้าได้แต่พยักหน้างึกงึก “เออนา..”
    แล้วก็คิดในใจว่า
    “เขียนให้จบโดยไม่ออกทะเลยังกลุ้มกบาลเลยสำมะหาอะไรจะกังวลเรื่องเนื้อหา”
    ..
    ..
    แต่หากได้ทราบว่า..ตัวอักษรซอมซ่อเหล่านั้นสามารถสร้างระลอกคลื่นเล็ก ๆ ขึ้นในดวงจิตใครสักคน นั่นย่อมเป็นเครื่องชูใจของรจนากรอ่อนหัดที่บังอาจริร้อยมาลัยอักษรทั้งหาได้รู้วิชาคหกรรมทางอักขระแม้สักมูลเล็บ

    ขอบคุณ
    ขอบคุณ

    คารวะ
    ยิบซีดิลล์

  38. กำลังใจ 🙂

    *ไม้ขีดไฟ แต่งตัวอยู่นะ หล่อแล้วคงโชว์ตัวเน้อท่าน haha

  39. เคยได้ยินว่า
    “ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน พอแตกใบอ่อนเป็นมะลิลา”

    พอมากระท่อมนี้ มีใหม่ซะงั้นแฮะ
    “เล่าเรื่องกล้วย ๆ แต่ขึ้นต้นด้วยมะละกอ”

    .
    .

    คริ คริ คริ

    .
    .

    แวะเข้ามาเพื่อตอบคำค่ะ
    มันใช้สัญญลักษณ์ต่อไปนี้ เพียงแต่ต้องพิมพ์ติดกันนะคะ

    : – ) = 🙂
    : D = 😀

    คารวะเจ้าค่ะ
    -มารดำเจี๊ยบเจี๊ยบ-

  40. ประทีป จิตติ

    เรียนท่านดิน ด่วน!

    ต้นฉบับของท่าน ผมกำลังอ่านอย๋โดยการพิมพ์ออกมา

    ความยาว 200 หน้า

    รอได้ไหมขอรับ

    ท้งนี้ผมจะส่งงานทางไปรษณีย์ให้ท่าน

    ภายในกลางเดือนนี้ให้ได้

    กรุณาแจ้งที่อยู่มาอีกครังขอรับ

    ป.ล.

    เจ้านายไม่อยู่ เลยแอบพิมพ์ออกมาได้ขอรับ

    ด้วยมิตรภาพ

  41. ขอบพระคุณขะรับพี่ท่าน..จะรอ..จะรอ..(ส่งที่อยู่ไปแย้ววว)
    ขึ้นต้นเป็นมะละกอพอแตกหน่อ..เป็น..กล้วย 😀 อิ อิ
    จะรอเจ้าไม้ขีดไฟต่อไป..ต่อไป..

    คารวะ

  42. ขนำปลายนา : มะละกอ (ทีนี้)

    ฝัันของท่านใหญ่โตดีนะคะ

    คารวะ

    ปล. เจ้าไม้ขีดไฟ แต่งตัวเสร็จแล้ว “จะหล่อไหมท่าน” ฝากแวะไป ‘ติ’
    แท้งกิ้วเจ้าค่ะ

  43. พวกกระถิน ถั่วพู นี่ก็ใช้ได้ขอรับ

    ต้นถั่วเขียว…

    รั้วกินได้ทั้งนั้น

    สมัยก่อนอยู๋สวน ก็พึ่งพวกนี้จิ้มน้ำพริก..

  44. ได้รับเมลของท่านที่แสดงความประสงค์ในเรื่องการเปลี่ยนแนวการเขียนคอลัมน์ในก้าวรอก้าว ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากแนวทางชีวิตของท่านที่จะเปลี่ยนแปลงนับจากนี้ไป ทำให้ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะมาร่วมแบ่งปันความรู้สึกเหล่านั้น

    ข้าพเจ้ามีความคิดฝันจะใช้ชีวิตบั้นปลาย ปลูกผักปลูกหญ้าดำรงชีพอยู่ไปวันๆ
    เมื่อได้สหายเยี่ยงท่านทำบุกเบิกล่วงหน้าไปก่อนเช่นนี้ นับว่าเป็นบุญยิ่ง
    การแผ้วถางผืนดินของท่านเปรียบดั่งแสงเทียนส่องให้ข้าพเจ้ามองเห็นลู่ทางของตนในอนาคต

    ข้าพเจ้ายังจำได้ดีตอนที่ไปเยี่ยมท่านที่ระโนด ท่านบอกข้าพเจ้าว่าการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติไม่ได้งดงามเหมือนดั่งภาพในจินตนาการ เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกับมด แมลงมีพิษ งู และอีกหลายสิ่งหลายประการที่ไม่พึงประสงค์

    แต่เมื่อรักจะใช้ชีวิตเช่นนี้ เราต้องปรับตัวอยู่ร่วมกับมันให้ได้

    และบทเรียนบทนั้นที่ท่านสอนสั่ง ข้าพเจ้าได้รับการทดสอบทันที่ที่ก้าวเท้าถึงเขาสก …กระท่อมในป่า ร้างไร้ผู้คน แมลงบินว่อนไปทั่วกระท่อม เสียงป่าหรีดหริ่งวังเวงพิสูจน์จิตใจ…กลายเป็นแบบทดสอบบทแรกให้กับข้าพเจ้า

    ข้าพเจ้าอาจเคยผ่านสภาวะเช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เลยสักครั้งที่จะดึงประสบการณ์เหล่านั้นมาเชื่อมโยงกับแนวทางชีวิตที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝันในอนาคต

    ภาพกระท่อมหลังน้อยมีระเบียงยื่นออกมาเพื่อไว้นั่งอ่านนั่งเขียนหนังสืออยู่หน้าบ้าน
    ภาพพืชผักผลไม้นานาพันธุ์ที่ผลิดอกออกผลให้ข้าพเจ้าได้เก็บเกี่ยว
    ภาพแม่ไก่และลูกไก่ตัวเล็กๆ ที่ข้าพเจ้าเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนให้คอยปลุกขันยามเช้า

    ข้าพเจ้าวาดภาพเหล่านี้ไว้งดงามนัก โดยหารู้ไม่ว่าความเป็นจริงชีวิตไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น

    วันก่อนข้าพเจ้าไปปูผ้าใบนอนใต้ร่มไม้ที่สวนลุมพินี หลังล้มตัวลงนอนไม่กี่นาที มดสารพัดสายพันธุ์เดินเรียงแถวไต่ขึ้นมาบนผืนผ้าใบ ไม่ปล่อยให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสนอนเอกเขนกอย่างมีความสุข

    นี่เป็นแค่ฉากจำลองฉากหนึ่งในชีวิตที่ข้าพเจ้าฝันอยากมี อยากเป็น
    แต่ข้าพเจ้ากลับทนความรำคาญแค่นี้ไม่ได้ ตัดสินใจสะบัดผืนผ้าใบ กลับไปนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาตัวโปรดที่บ้าน

    และมันทำให้ข้าพเจ้าหวนคิดถึงประโยคนั้นของท่านอีกครั้ง

    ก้าวย่างของท่านในครั้งนี้ คงเป็นตัวอย่างให้ข้าพเจ้าได้เห็นถึงความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้นหลังการตัดสินใจเดินบนเส้นทางเดียวกับท่าน

    พึงระลึกไว้เถิดว่าก้าวนี้ของท่านไม่ได้มีความหมายกับท่านเพียงลำพัง
    แต่มีค่าสำหรับข้าพเจ้าและกับใครอีกหลายๆ คนที่แสวงหาหนทางเส้นนี้

    ก้าวไปก่อนนะสหาย
    และอย่าลืมก้าวรอกันบ้าง
    จำคำนี้ได้ไหม “ก้าวรอก้าว”ไง (พื้นที่โฆษณา)

  45. รอยแต่ง

    ปล่อยอารมณ์ให้ห่มฟ้ามานานเนิ่น
    บรรจงเดินทีละย่างอย่างสุขุม
    ปลดวิถีที่ร้อนแรงแสงไฟรุม
    มาเดินดุ่มทอดกายถึงชายเรือน

    วีถีท่านผ่านตาทุกคราค่ำ
    จึงน้อมทำมานำจิต,คิดให้เหมือน
    ผมมองฟ้าทุกคราคราวดาวแต้มเดือน
    มิให้เลือนบทกวี ที่คุ้นคำ

    ฝากถ้อยร้อยวจี…ถึงพี่ท่าน
    หายไปนานใช่ผ่านลืมเคยดื่มด่ำ
    ใช่ห่างหายคลายรสบทเคยพร่ำฯ
    เพียงริทำการใหญ่ ให้รู้ดี(นั่น พูดซะเว่อร์ อิอิ)

    ยังเวียนว่ายหมายมองเหล่าผองเพื่อน
    แต่เพียงเยื่อนแล้วหลบเล้นเผ่นหนี
    ไม่ใช่อะไรหรอกครับพี่ดินดี(ขอยืมคำแม่กีฯ หาคำลงไม่ได้ขอรับ)
    เพียงผมมีช่วงจำกัด ให้หัดเขียน

    ด้วยความเคารพขอรับ

    คั่นฯ

  46. -รอยแต้ม-

    ..เขียนถึงท่านคั่นผู้…ผ่านมา
    ฝากแคร่อักษรา……ใฝ่เฝ้า
    จารอักขระรจนา……เจียมจิต เจียรนัย
    นานเนาว์อยู่ค่ำเช้า….เชิงเช่น ประพันธกร ฯ

    ..ห่างไปคงแน่แท้….ทำงาน
    ไกลห่างก็หาลาน…..ห่อนล้ม
    ยังคงผจงจาร……..พจีถ้อย นาท่าน
    กายห่างเพียงใจโน้ม…แทบเท้า พจนา ฯ

    ..เคียงบ่าเคียงไหล่เร้า..ร่วมเดิน
    ฟันฝ่าอุปสรรคเผชิญ….ต่อสู้
    เสพรสวิเศษเพลิน……เพลิศแพร้ว ภัสมะกวี
    สืบใจสืบกายกู้……..กอบเกื้อ กวีสมัย ฯ

    ..ขอบูรพกวีป้อง…ท่านเทอญ
    จงมุ่งทางจำเริญ….รุ่งฟ้า
    สำเร็จสรรพกิจเชิญ….การใหญ่ กล่าวมา
    บำเรอบำรุงหล้า….เบิกแล้ว หทัยไท ฯ

  47. เห็นด้วยกับคุณธุลีดิลล์ครับ ไม่ว่าจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมไหนๆ ธรรมะก็มีอยู่ทุกแห่งหน อยู่ที่เราจะเข้าถึงธรรมะได้หรือเปล่าเท่านั้น

    อรุณสวัสดิ์ครับ 🙂

  48. สวัสดีค่ะ

    แอบฟังแอบมอง คนเจ๋งๆ เขาคุยกัน

    เพลินดีค่ะ

    คารวะ

    ^_^

  49. พวกมันเป็นสหาย
    มิเพียงเป็นสหายธรรมดา
    หากว่ายังเป็นสหายที่รักกันยิ่ง

    พวกมันร่วมแต่งเพลง
    หนึ่งประคองพิณบนตัก
    หนึ่งประคองขลุยขึ้นแผ่ว
    เป็นการประสานเสียงพิณ-ขลุย
    เป็นการประสานใจระหว่างมิ่งมิตร

    ที่พวกมันบรรเลงเป็นเพลง “ยิ้มเย้ยยุทธจักร”

    ขลุยหยกเลานั้น
    ครั้นพอผิวลมผ่าน
    พลันกังวานขึ้นอย่างไพเราะ
    เสนาะโสตปานไข่มุกกลิ้งบนจานหยก

    สายพิณนั้น
    พลันสั่นพลิ้วตามปลายนิ้ว
    ก่อเกิดเสียงใส
    ดั่งสกุณาร่ำร้องในดงบุปผาบาน

    ตระการโสต
    เสนาะเสียง
    ด้วยสำเนียงสอดประสานกลมกลืน

    คล้ายทรนง
    คล้ายอ่อนน้อม
    คล้ายถือมั่น
    คล้ายปล่อยวาง

    อย่างแช่มช้า…

    ไข่มุกกลับทะเล
    จานหยกคืนหินผา
    สกุณาบินลาลับ
    บุปผาโรยรา
    ที่เหลืออยู่คือเสียงฝนพร่ำ

    คล้ายจบ
    คล้ายยังบรรเลง
    คล้ายมี
    คล้ายไม่มี

    ในที่สุดสรรพสิ่ง
    คืนสู่ธรรมชาติ

    …เงียบ…

    …สงบ…

    .
    .

    ฟังเพลงที่พี่ท่านเอามากล่อมในกระท่อม
    ผมพาลคิดถึงฉากที่ผู้เฒ่าเค็กเอี้ยง กับ เล่าเจี่ยฮวง
    ร่วมกันแต่งและบรรเลงเพลง “ยิ้มเย้ยยุทธจักร”
    ในยอดวรรณกรรมเรื่อง “เดชคัมภีร์เทวดา” ขึ้นมาเฉยเลย

    จึงได้แต่แสดงความทุเรศ
    ประพันธ์ถ้อยร้อยอักษรเหล่านั้นตอบแทนท่านพี่แล้ว

    คารวะ

    -ศิษย์น้องสอ-

  50. ..รอยโต้…

    …อักษราพัดพร่างพร้อย….คำถึง
    ก่อเกิดลมคนึง…………กล่อมถ้อย
    แผ่วพัดผ่านคำซึ้ง……….คืนคั่นฯ
    มวลมิ่งคำมิตรคล้อย……..ดั่งให้ชวนฝัน

    …วานวันมีท่าน-ข้า…….แลมิตร
    เริงร่ายแลประดิษฐ์………วาดไว้
    อกโอบอุ่นอวลจิต……….ทุกท่วงฯ
    กระบี่บิดแตกไซร้……….ใช่ให้คิดวาง

    …คืนเก่าคราวท่าน-ข้า…..สหาย
    เริงร่ำแลเมามาย………..รสถ้อย
    ผิดถูกใช่คิดหมาย……….ขีดคั่น
    สุขมีกี่มากน้อย…………แบ่งถ้วนเพื่อนยา

    …วานลมพัดพาห้วง……..หวนกลับ
    ถึงพี่ที่น้อมนับฯ…………แห่งข้า
    ถึงกาลผ่านวานลับ……….นานเนิ่น พี่เอย
    รอยร่ายเรียงระย้า……….พี่โต้กล่อมใจฯ

    ดึกดื่นเคล้าฝนพรำสวัสดิ์ขอรับพี่ท่าน

    รักษาสุขภาพขอรับ

    ด้วยความเคารพ

    คั่นฯ

  51. อา..ศิษย์พี่สอง..น้องคั่น..
    เป็นเช้าที่น่าอภิรมย์นัก
    ..
    ..
    อาบน้ำอาบท่าไปวัดล่ะ

    คารวะ

  52. แวะมาหามะละกอดิบ..ไปแกงส้ม…
    รับประทานให้เข้าเทศกาลกินเจ..
    น่ะเจ้าคะ

  53. ตามสบายเจ้าค่ะ..
    ไม่ทราบมีเครื่องแกงรึยัง?
    ผู้น้อยจะได้ถอนขมิ้นตะไคร้แถมเป็นแพ็คเก็จ..เจ้าคะ

  54. สวัสดีค่ะท่านดิน

    .

    มะละกอพันธุ์แขกดำ นอกจากเนื้อจะเยอะแล้ว ยังอร่อยอย่าบอกใครเลยค่ะท่าน

    อ่อ .. ต้นมะละกอ มันมีต้นตัวผู้ ต้นตัวเมียแยกต้นกันด้วยค่ะ
    (หากทราบแล้วก็ถือว่าเล่าสู่กันฟังละกันเนาะ)
    บางคนเจอต้นที่มีดอกแต่ไม่ให้ผล ก็พาลจะถอนรากถอนโคนทิ้งเสียหมดสิ้น
    สุดท้ายแม้มีลมและแมลงมาช่วยผสมเกสร แต่ไร้ซึ่งเกสรตัวผู้จากต้นในรัศมีใกล้ ๆ นั้น
    ท่านก็จะไม่ได้ผลมะละกอมาชื่นชมแต่อย่างใด

    บอกไว้ เผื่อท่านเจอต้นไหนที่ให้ดอก แต่ไม่ให้ผล
    ได้โปรดปล่อยให้มันเติบใหญ่ไว้สักต้น สองตันนะคะ

    .
    .

    คารวะ .. 😀
    -มารดำ-

  55. กระบี่ทลายฟ้า…

    กำลังเข้มข้น

  56. อา..เป็นเช่นนั้นเอง
    แสดงว่ามะละกอมันมีต้นตัวผู้จริง ๆ หรือขะรับ?
    ข้าพเจ้าก็คิดว่ามันเป็นหมัน..แล้วชาวบ้านก็เรียกไปตามประสา
    ..
    ..
    เป็นอันว่าจะต้องมีทั้งสองประเภทไว้ในบริเวณเดียวกัน
    ถึงว่า..ไอ้ต้นที่ข้าพเจ้าเคยปลูกมันไม่ยอมมีลูกเสียเอาจริงเอาจัง
    ก็เพราะมันยืนโด่เด่อยู่ต้นเดียวน่ะขะรับ
    ..
    ..
    ขอบคุณ..
    ขอบคุณ..

    พี่ทั่น!
    กำลังคอย
    กำลังคอย
    ..
    ..
    คาระชะรับ

  57. โอ จัดบ้านใหม่อ่านง่ายขึ้นเยอะเลยท่านดิลล์

    ล้า…สันลา ลันหล่า
    ล้า…สันลา ลันหล่า
    ล้า…สันลา ลันหล่า (ทำนองกระบี่เย้ยยุทธจักร)

    -คาราวะ-
    แสน

  58. กิน เฮ้ย! อ่าน มะละกอ จบก็ต้องไล่มองหา-เม้น-ตรงไหนหว่า?
    อิอิ ไม่ได้แวะมาเสียนานแสนนาน -คิดถึงนะจ้าววววววอ้ายธุลีดิน-

    สบายดีนะจ๊ะท่านเถ้า ไวรัสหวัดมาทักทายบ้างป่าว?
    ระวังรักษาสุขภาพด้วยนา ยิ่งอากาศชื้น ฝนตกบ่อย ยิ่งเสี่ยงต่อร่างกายอ่อนแอ

    นานเลยไม่ได้เข้ามากระท่อมท่าน ตั้งแต่ป้าย้ายมาอยู่หอที่มธ.รังสิตก็ลดการเล่นเน็ต
    นั่งหน้าคอมน้อยลงมาก ให้เวลากับหนังสือได้เยอะเชียวแหละ นอนเร็วตื่นเช้ามีเวลาสูดบรรยากาศดีๆ เสียงปลุกจากนก ไก่ กา ยามเช้า ค่อยให้ความรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้บ้านบรรยากาศคล้ายบ้านนอกที่น่านมาบ้าง ไม่มีเสียงรถราวุ่นวาย ไม่มีกลิ่นควันให้หายใจขัด และไม่ต้องเสี่ยงกับมอไซค์รับจ้างที่นั่งที-เกร็งนานและลุ้นโคตร

    แต่เมื่อต้นเดือนเจ้าน้องชายตัวแสบก็เพิ่งไปขอใช้อินเตอร์เน็ตรายเดือน
    ตอนนี้ก็เริ่มเข้าสภาวะเดิมบ้าง บางคืน ที่นอนดึก(เล่นเน็ต) ตื่นเช้า
    แต่ก็พยายามไม่เสียเวลากับมันมาก เพราะป้าแพ้แสงจากคอม
    สุขภาพตาเริ่มแย่ลง ตอนนี้นั่งเล่นที่ทำงาน ตาก็เริ่มแสบ น้ำตาเริ่มซึม

    เอาเป็นว่า จะค่อยๆไล่อ่านตามให้ทันละกัน
    ไม่รู้ว่าท่านล่วงหน้าไปไกลถึงไหนแล้ว
    ยังไม่ได้ตามเยี่ยมห้องอื่นของกระท่อมเลย
    มีอะไรๆไว้รับแขกขาจร ก็อย่าเพิ่งโล๊ะเก็บ ย้ายกระท่อมไปเสียก่อนนะท่าน

    แฮ่! ว่าจะแซวเรื่องย้ายกระท่อม ว่าขยัน ขยับขยายยังไม่พอยังขยันย้ายอีก
    ไหงเล่นย้ายขนำด้วยเลยรึ! ย้ายไปไกลจากที่เดิมไหมท่าน ขนำเก่าป้าเลยอด
    ไปนั่งนับตุ๊กแกเลยเนอะ

    ได้เวลาไปหาที่ซุกตัว อ่านหนังสือให้สบายอารมณ์แล้ว
    วันนีทำงานครึ่งวัน แต่พรุ่งนี้ทั้งวันยังต้องผลิตลูกให้ชาวบ้านมีบุตรยาก
    ขอตัวนะขอรับเจ้าค่ะ

    -คารแวะ-
    ป้าโค

  59. ดึกดื่นสวัสดิ์ขอรับพี่ท่าน

    แวะมาบอกว่า

    “แวะมาเยี่ยมขอรับ”

    ด้วยความเคารพ

    คั่นฯ

  60. ข่าวว่าสายตาของพี่ท่านไม่ค่อยสู้ดีนักใช่ไหมขอรับ?

    โอ้ววว ดูแลสุขภาพตาด้วยนะครับขอรับท่านพี่
    หากตาจะแย่ จะเสียขึ้นมาจริงๆ
    อย่างน้อยก็ให้เหมือนเจมส์ จอยส์ (James Joyce) ละกัน
    คือเขียนงานสักเรื่องหนึ่งให้ยิ่งใหญ่เหมือน Ulysses
    เสร็จแล้วค่อยตาบอดเหมือนกันไงล่ะขอรับกระผม

    ไม่ได้แช่งนาขอรับ
    แต่พร่ำให้ฟังด้วยเป็นห่วง

    เกล้าเองก็เหมือนกันแหละขอรับ
    ตาไม่ค่อยสู้ดีนัก
    เจอะแหม่มสวยๆ แล้ว
    ตาพาลบอดด้วยความรักขึ้นมาดื้อๆ

    แฮ่ม! เผลอทะลึ่งกะพี่ท่านอีกแล้วไหมล่ะ

    คือตาของเกล้าเองก็เป็นกุ้งยิง
    เอ๊ย เป็นต้อลมเหมียนกัลล์ขอรับท่านพี่
    มิถึงกับเป็นอันตรายร้ายแรงดอกขอรับ
    และมิถึงกับต้องหยดยาเป็นประจำด้วย
    แต่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ซะหน่อยก็เท่านั้น
    เป็นต้นว่า…
    หลีกฝุ่นผง
    เลี่ยงสายลม
    หลบแสงแดดจ้า
    อะไรประมาณนี้แลขอรับ

    ก็พยายามดูแลกันเอาเองแหละเน๊าะขอรับพี่ทั่น
    ตาใคร ตามัน แน่ล่ะ ยายใครก็ยายมันด้วย

    อย่าใช้คอมพ์ฯมากนะขอรับท่านพี่
    เว็บไซต์ควรแบ่งเวลาท่อง
    และ แฮ่ม โดยเฉพาะเว็บโป๊ อย่าได้แวะไปเพ่งนานเชียว
    มิฉะนั้นตาอาจจะบอดก่อนวัยอันควร

    มิควร
    มิควร
    มิควรเอาเยี่ยงผมเลยขอรับ

  61. ขอยกเรื่องภาพปกกับเนื้อหาของหนังสือมาคุยที่นี่ขอรับ

    ผมเชื่อว่า ร้อยทั้งร้อยของผู้ที่เขียนหนังสือขึ้นมาคงอยาก
    เลือกรูปแบบหน้าปกเองขอรับ และผมก็คิดว่าทางสำนักพิมพ์
    น่าจะให้สิทธิ์นักเขียนในการเลือกด้วยนะขอรับ

    หน้าปกรูปเล่มนั้นก็เปรียบเหมือนส่วนหนึ่งของคำนำเช่นกัน
    หลายครั้งที่ผมไปยืนเลือกซื้อหนังสือแล้วพบว่า หน้าปกกับเนื้อ
    เรื่องข้างในไม่ไปด้วยกัน คุณค่าของหนังสือเล่มนั้นตกลงไปอย่างน่าใจหาย
    (ในความรู้สึกส่วนตัวนะขอรับ)

    เพราะเวลาที่ผมอ่านหนังสือ ผมไม่ได้เสพแค่เนื้อหาเพียงอย่างเดียว
    ผมเสพภาพหน้าปก เสพปกหลัง เสพสันหนังสือ เสพคำนำ เสพสารบัญ
    และจึงค่อยๆแทะเล็มเนื้อหา ในระหว่างนั้น ผมก็เขมือบเครื่องเคียง
    คือกลิ่นกระดาษ กลิ่นหมึก เนื้อสำผัสกระดาษ น้ำหนักหนังสือ

    หากทุกอย่างผสมผสานลงตัว ผมจึงเรอ”เอิ๊ก”ออกมา แล้วบอกว่า “อร่อยมักๆ”

    แต่ก็อย่างว่าล่ะท่านดิน น้อยครั้งที่เราจะเลือกได้ดั่งใจ (มองจากทั้งฐานะผู้อ่านและผู้เขียน)

    หลายๆ ครั้งผมเดินหาซื้อหนังสือเก่าๆ ตามแผงหนังสือมือสอง
    หนังสือเก่ากลิ่นหืนกองสูงทับถมเปื่อยยุ่ยราวกับขยะกองโต
    ค้นไปค้นมาผมก็มักจะได้หนังสือติดไม้ติดมือมาซะเกือบทุกครั้ง
    หนังสือพวกนี้หน้าปกไม่เปื่อยหายไปเกินครึ่งก็ต้องมีคราบสกปรกเปื้อน
    จนไม่เหลือความสวยงาม กลิ่นหืนจนเวลาอ่านต้องเบือนหน้าหนีเป็นระยะ
    แต่อ่านจบทีไรก็ยัง ‘อร่อย’อยู่ดี ??

  62. ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    ท่านเจ้าของกระท่อม

    ข้าพเจ้าแวะเข้ามา

    จึงถือโอกาสนี้ “เยี่ยม”
    (หากว่าท่านเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ปล่อยโรคร้ายนั้นไปไกลๆ เถอะเจ้าค่ะ อย่าได้นอนกอดมันไว้เลยนะ)

    ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

    ^^

  63. อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านขุนฯป้าโคพี่ท่านประทีปะท่านอัมท่านคั่นพี่สองท่านภัทร

    หาได้ป่วยไข้อันใดดอกขะรับ ที่ข้าพเจ้าหายกบาลไปก็ด้วยมีเหตุให้จำต้องแสดงความยินดีกับสหายบ้านใกล้เรือนเคียงในการที่สหายจะหาบ่วงมาคล้องคอด้วยความสมัครสมานใจ ยินดีกันแบบข้ามวันข้ามคืนนั่นเทียว!

    เมื่อวานเป็นอันส่งตัวกันเรียบร้อย สำเร็จภาระหน้าทีของสหายที่ดี ได้เวลาปรับโหมดคืนสู่กะลาใบน้อยอีกครา

    การมีบล็อกไว้ทำให้เราเยี่ยมเยียนกันได้ทั้งที่ตัวไกลกันเหลือเกิน
    ยังมีความสุขกับบ้านกลางอากาศสม่ำเสมอ…เน้อ

    คารวะ

  64. สวัสดีค่ะท่านดิน

    คนเราอาจเปลี่ยนแนวการเขียนตามประสบการณ์ ความชอบ ความเชื่อ และกาลเวลาที่เพาะบ่มได้ และบางคนก็เขียนให้ดีได้ในบางแนวเท่านั้น

    จงเขียนด้วยใจรัก จงเขียนต่อไปค่ะ .. 😀

    คารวะ
    -มารดำ-

  65. ยามเย็นสวัสดิ์ขอรับท่านพี่

    อันว่าประเภทงานเขียนหมวดหมู่ของวรรณกรรมคนอ่านแต่ละคนคงคิดเห็นไม่เหมือนกันหรอกขอรับ ประมาณว่าคนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำแถวเทือกนั้นละขอรับ

    เราเขียนเพราะรู้สึกดีที่ได้เขียน
    เราเขียนเพราะอยากให้คนอื่นรู้สึกดีที่ได้อ่าน

    – คนอ่านได้ความสุข
    – คนอ่านได้ความรู้
    – คนอ่านได้แรงบันดาลใจ

    เพียงเท่านี้ข้าพเจ้าคิดว่านักเขียนหรือตัวหนังสือที่พรมเขียนออกมาได้ทำหน้าที่ของมันได้สมบูรณ์ครบถ้วนกระบวนความของมันแล้วละขอรับ

    เพิ่งอ่านเจอที่ท่านวินร์ตอบคำถามสหายหนอนท่านหนึ่งไป
    คำถามที่ว่า “หากอ่านหนังสือแล้วรู้สึกว่าเบื่อหนายไม่ชอบจะทำอย่างไร”

    ท่านวินทร์ตอบได้น่ารักว่า

    หนังสือในโลกนี้มีเป็นพันๆ ล้านเล่ม ไยท่านจึงต้องทนอ่านเล่มที่อ่านแล้วเบื่อเล่า?

    ผมมีวิถีปฏิบัติอย่างหนึ่งคือ หากอ่านหนังสือแล้วเบื่อ ผมก็วางมันลงทันที ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมระดับโลกหรือมีรางวัลโนเบลแปะอยู่ก็ตามที ไปอ่านเล่มอื่นต่อ เวลาในชีวิตมีน้อย ทรมานตัวเองไปทำไมครับ

    อย่าลืมว่า หนังสือเล่มหนึ่งๆ ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การอ่านวรรณกรรมที่โลกยกย่องไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่ความผิดอะไรครับ แค่รสนิยมต่างกันก็เท่านั้น

    งานเขียนก็งคงกินความหมายเช่นเดียวกันกระมังขอรับท่านพี่
    หากเขียนแล้วไม่มีความสุขจะทนเขียนไปทำไมมี เวลาในชีวิตมีน้อย
    ทรมานตัวเองไปทำไมละขอรับ

    คำคมส่งท้ายเพิ่งอ่านเจอชอบมากๆ

    “อยากจะเป็นนักเขียนก็ต้องเขียน… ไม่ใช่นั่งเขียนอยู่ในอากาศ”

    จะเป็นนักเขียน ไม่ใช่เขียนเรื่องสั้นสองสามเรื่อง แล้วบอกว่าเป็นนักเขียน มันต้องเขียนทั้งชีวิตสิโว้ย ถึงจะเป็นของแท้”

    -อาจินต์ ปัญจพรรค์/บรรณาธิการแห่งบรรณาธิการ-

    ด้วยมิตรภาพเช่นเคยขอรับ

  66. อรุณสวัสดิ์ค่ะ

    ตามมาพยักหน้า หงึกๆ!
    เห็นด้วยกับท่าน(…)

    “ต้องไม่ล้มเลิกความฝันและละทิ้งความพยายาม”
    อันนี้ได้มาจากละครเรื่องหนึ่งค่ะ

    ^^

  67. เลิกงานสวัสดิ์ขอรับสหายผู้ผ่านทาง พี่สาม ท่านภัทร ท่านมารเจี๊ยบเจี๊ยบ (ไม่ทราบเมื่อไรจะเป็นกุ๊กกุ๊กสักที) ท่านหอยทากอัมที่เคารพ

    มีเวลาสักแว่บก่อนออกไปหาอาหารมื้อเย็นใส่ท้อง งานซ่อมแซมกระท่อมฝากริ้วรอยบาดแผลให้ข้าพเจ้ามากขึ้นทุกที กลัวบาดทะยักก็กลัว ยิ่งมีแผลยิ่งทำงานยาก ค่ำนี้จะเขียนหนังสือหรืออ่านหนังสือดี?..โอ..ข้าพเจ้าคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามความรู้สึกกระมัง…

    คุยประเด็นเขียนหนังสือก็ดีไปอย่างนะขอรับ คล้าย ๆ เราได้นั่งจับเข่าคุยกันมีอะไรก็ยกมาวางบนแคร่ผลัดกันเคี้ยวผลัดกันแคะ

    ข้าพเจ้าขออนุญาตเอา ‘ทวนทบ’ ออก อ่านทบทวนแล้วไม่รู้สึกชอบเลย ขาด ๆ เกิน ๆ อย่างไรก็ไม่รู้ คล้ายคนสับสนมึนงงน่ะขอรับ ช่วงนี้ข้าพเจ้าอาจเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ตัวอักษรจึงได้ออกมาอย่างนั้น

    ขออย่าเพิกพยักหน้าขะรับท่านภัทร

    ที่พี่สามกล่าวมาล้วนน่าคิดน่าฟัง แต่ขอผู้น้อยสะกิดเอวสักประเด็นเถิด กับคำถามที่ถาม วินทร์ เลียววาริณ “หากอ่านหนังสือแล้วรู้สึกว่าเบื่อหน่ายไม่ชอบจะทำอย่างไร”

    คงต้องถามต่อว่า เป็นหนังสืออะไร?

    หากเป็นหนังสืออ่านเล่น อ่านเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ คำตอบที่ได้ก็นับว่าน่ารักดังว่า แต่หากเป็นหนังสือที่จำต้องรู้ต้องอ่าน บทวิเคราะห์ตลาดสำหรับนักธุรกรรมการเงิน คู่มือสอบก.พ.ของบุคคลซึ่งใฝ่ฝันงานข้าราชการ กฏหมายนิติบุคคลที่ท่านอ้ายฯกำลังจะสอบเทอมนี้ เหล่านั้นถึงจะทรมานกายทรมานใจในการผ่านตาแต่ละหน้า แต่พวกเขายังคงต้องอ่าน และต้องอ่านให้รู้เรื่อง

    ยังมีการอ่านอีกชนิดหนึ่งคืออ่านเพื่อทำความรู้จัก

    หากอยากรู้ว่าทำไมภาษาของเฮมมิ่งเวย์จึงเป็นที่ยกย่อง มีอยู่ทางเดียวก็คือหามาอ่าน แม้จะสิ้นเปลืองวิริยะสักเพียงใด ความใคร่รู้คงเป็นเชื้อไฟให้พลิกหน้าไปจนจบด้วยหวังจะพบคำตอบบางอย่างสำหรับตัวเอง

    “หนังสือในโลกนี้มีเป็นพันๆ ล้านเล่ม ไยท่านจึงต้องทนอ่านเล่มที่อ่านแล้วเบื่อเล่า?”

    ก็เพราะเล่มที่น่าเบื่อยังอาจให้คุณค่าบางอย่าง ขึ้นกับว่าอ่านเพราะ-เพื่ออะไร?
    เคยมีใช่ไหมขอรับ? ที่ท่านพบว่าหนังสือบางเล่มเริ่มบทแรก ๆ อย่างน่าเบื่อ แทบจะสอดกลับเข้าชั้นเป็นร้อยพันครั้ง เพราะแนวเขียนไม่ตรงกับอุปนิสัยการอ่านของเรา แต่ครั้นฝืนทนอ่านมาเรื่อย ๆ จนจบเล่ม กลับได้ความรู้สึกดีต่อหนังสือเล่มนั้น

    การทรมานอ่าน..ทรมานเขียน บางครั้งจึงมีความหมายต่อการก้าวเดินของเรา

    เขียนหนังสือหลายร้อยหน้า หากไม่ผ่านความทรมานเคี่ยวกรำไหนเลยเราจะจบมันได้

    บางครั้งเราโยนความทรมานทิ้งไปเพื่อรักษาไว้ซึ่งหัวใจอันผ่องแผ้ว
    แต่บางครั้งเราจำต้องแบกรับความทรมานไว้เพื่อผลสำเร็จที่หมายมั่น
    เมื่อไรควรตัดสินใจเช่นไร? นั่นคงเป็นเช่นวินาทีที่โรนัลโด้จอมสับตัดสินใจว่าจะจ่ายบอลให้เพื่อนยิงหรือจะยิงเอง..หรือจะสับขาอีกสักทีสองที

    เห็นด้วยไหมขอรับสหายพี่สามที่เคารพรักเป็นที่ยิ่ง

    ไปหาอาหารเย็นก่อนล่ะ น้ำท่ายังไม่ได้อาบเลยขะรับ

    คารวะ

    อ้อ..ปล. ผู้น้อยล่ะอยากถามท่านบอกอของบอกอเหลือเกิน จะเป็นนักเขียนหรือไม่เป็นจะเป็นของแท้หรือของปลอม แล้วจะเป็นไรหนอ? ก็เรื่องของบุคคลนั้น ๆ ไป แท้หรือไม่สุดท้ายเราล้วนทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง

    เขียนทั้งชีวิตหรือเขียนสองเล่มแล้วเลิกก็ล้วนเท่าเทียมกันในการใช้ชีวิตเพราะต่างก็มีเหตุผลของตนในการเลือกหนทาง

    ไปล่ะโม้มากเดี๋ยวค่ำกันพอดี

  68. อะแหม..ท่านพี่เกอะ แจงซะละเอียดยิบเทียวละ
    คริ คริ

    ท่านสะกิดเอวข้าพเจ้ากระไร ข้าพเจ้ายิ่งบ้าจี้อยู่
    ถ้าเป็นแม่นางแถวนี้ก็ว่าไปอย่าง(แหวะ)

    เอาน่าท่านพี่…

    บางทีคำตอบหนึ่งคำตอบมันก็เอาไปใช้กับทุกคำถามไม่ได้หรอกขอรับ ขะใจ๋ขะใจ๋กึ๊ดมากบ่อดายบ่อดีเดี้ยวแก่เร็ว รู้พัก รู้ผ่อน เสียบ้างนะขอรับ(เป็นห่วงสุขภาพ)

    นึกถึงเวลาเราวิ่งสิขอรับท่านพี่ บางทีเส้นชัยมันก็ไม่ได้อยู่ข้างหน้าเสมอไป และก็ไม่ต้องทรมานด้วยหากวิ่งเป็นประจำและสม่ำเสมอ

    แต่ก็นั่นละขอรับอยู่ที่ว่าท่านวิ่งแข่งกับอะไร หรือวิ่งเพราะอะไร

    ท่าวิ่งคนเราแม้จะคล้ายกัน
    แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียวหรอกขอรับ

    “เขียนทั้งชีวิตหรือเขียนสองเล่มแล้วเลิกก็ล้วนเท่าเทียมกันในการใช้ชีวิตเพราะต่างก็มีเหตุผลของตนในการเลือกหนทาง”

    ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับท่านพี่ทุกประการขอรับ

    เลิกงานแล้วได้เวลาพักผ่อนข้าพเจ้าเหมือนกัลล์
    กลับก่อนละขอรับท่านพี่

    คารวะ

  69. สวัสดีเจ้าค่ะ

    นั่งเคี้ยวหมากตุ้ยๆ พร่ำบ่นอะไรเสียยืดยาว เน็ตเจ้ากรรมดันหลุด
    หายเกลี้ยงเลยเจ้าค่ะ

    เห็นท่านหายเงียบไปไม่ตอบเมล นึกว่าป่วยไข้
    จึงแวะเข้ามาเยี่ยม เห็นสายอักษรของท่านลากยาวเป็นกิโลค่อยเบาใจ
    ท่านสบายกาย ข้าพเจ้าก็สบายใจ

    ทักทายแค่นี้แล้วกันนะเจ้าคะ
    ท่านคงพอเข้าใจว่าเวลาเขียนอะไรยาวๆ แล้วหายหมดนั้นเซ็งแค่ไหน
    ไปอาบน้ำระงับความเซ็งดีกว่า

  70. อรุณสวัสดิ์ขอรับสหายผู้ไม่เคยห่างหายที่เคารพรัก

    อา..การเขียนเหมาะกับละอ่อนด้อยภาวะวุฒิอย่างผู้น้อยก็ที่อ่านทวนได้แก้ได้นี่ล่ะขะรับ หากเป็นการพูดคงได้แต่พล่อยปากโดยหาล่วงรู้ว่ากล่าวพลาดตำแหน่งไร? พลั้งประการใด?

    ต่อท้ายพี่สามเมื่อเย็นวาน ที่แท้ความตั้งใจ(อันน่าจะเป็นหัวเรื่อง)ก็คือ เก็บกวาดประเด็น

    ที่ว่าไปเป็นเรื่องเราล้วนทราบกันดี เพียงหยิบยกขึ้นมาสะกิดเอว “นี่ตะเอง มีประเด็นหล่นทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่แน่ะ!” ประมาณว่าจะแกงส้มทั้งที กะปิ ตะไครั พริกสดพริกแห้งก็อย่าได้มีตกหล่น เดี๋ยวขาดรส อ้อ..ท่านรับแต่ชีสเบอร์เกอร์เหรอ เอ่อ..เอ่อ..สั่งโค้กพลางละกัลล์!

    อ่านทวนทำให้รู้ว่าข้าพเจ้าพล่ามเสียยาวแต่ขมวดไม่ตรงกับใจที่ต้องการเอ่ย การเขียนกับการบ่นเป็นตัวอักษรต่างกันตรงนี้เองใช่ไหมขอรับสหายพี่สาม?

    หลายครั้งที่เกรงเหลือเกิน กลัวเหล่าท่านจะอ่านเอาเรื่องถือเอาราวจากตัวอักษรอ่อนหัดเหล่านั้นมาเป็นอารมณ์ ขออย่าได้เผลอไผลถือสาเลยนะขะรับ ผิดบ้างถูกบ้างวอนช่วยตักช่วยเตือนกันไป ระหว่างฝึกเขย่งก้าวกระโดดจากการบ่นเป็นตัวอักษรไปหาการเขียนคงต้องมีก้าวผิดจังหวะหน้าขมำอยู่บ้าง ไม่มีสหายคอยเตือนผู้น้อยจะหันไปพึ่งผู้ใดได้เล่าขะรับ

    ท่านย่าขอรับ..

    ไม่ได้ตอบเมล์เพราะเอ่ยไม่ออก บอกไม่ถูก ไม่ทราบจะตอบว่าไง เอ่..หรือว่าตอบไปอย่างนี้ก็ดีนะท่าน ถือว่าตอบแล้วนะขะรับ

    ท่านเน้นแค่สบายกาย หมู่นี้ข้าพเจ้าคงไม่สบายใจ ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ พิกล คงไม่สบายใจ..ไม่สบายใจยิ่ง..

    ขอให้เป็นวันสุขขะรับทุกท่าน
    คารวะ

  71. อ้อ..ลืมไป!
    ที่ผ่านมาข้าพเจ้ามัวแต่วิ่งท่ากบ เลยได้แต่โอ้เอ้โอ๊บโอ๊บอยู่ข้างกะลา
    ต่อไปว่าจะลองหัดวิ่งท่าผีเสื้อ เผื้อจะดูดีขึ้นบ้าง
    ตะลุ้งตุ้งแช่ แฮ่! แฮ่! 😀

  72. ศุกร์สวัสดิ์เจ้าค่ะท่านดิน

    ข้าพเจ้าทราบดีว่าท่านไม่ค่อยสบายใจ
    กายกับใจย่อมสัมพันธ์กัน
    อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็คงต้องปล่อยให้มันผ่านเลยไป
    ไม่อย่างนั้นจะทำให้กายพลอยป่วยไปด้วย

    แล้วจะแวะมาเยี่ยมใหม่เจ้าค่ะ

  73. เลิกงานสวัสดิ์ขะรับท่านย่า

    วันพรุ่งเป็นวันพักผ่อนของท่านอีกแล้วสินะ
    (มีวันพักผ่อนมากจึงได้ปวดหลังปวดไหล่ไม่เลิกรา อิ อิ ;))

    ทานข้าวขะรับ
    เมนูวันนี้คั่วเผ็ดปลาจ้องม่อง (ไม่รู้จักล่ะสิ)
    แนมยอดฝักบุ้งริมคู

    กินล่ะ!

  74. คั่วเผ็ดปลาจ้องม่อง?

    รู้จักแต่ปลาม่องเท่ง กับปอปลาจ้องมองเจ้าค่ะ ฮ่า ฮ่า
    ตอนข้าพเจ้าไปเที่ยวไม่เห็นชวนกินอะไรประหลาดๆ อย่างนี้บ้างเลย

    วันนี้ว่าจะอัพบล็อคเสียหน่อย แต่สายตายังล้าๆ อย่างไรพิกล
    ช่วงนี้เด็กปิดเทอม ข้าพเจ้างานค่อนข้างยุ่งเจ้าค่ะ กรุ๊ปทั้วร์เข้าทุกวัน

    ไปละ ขืนอู้อยู่ที่นี่นาน เดี๋ยวหมดแรงอัพบล็อกกันพอดี

  75. ฉันคอยรออยู่ตั้งนาน
    จะมีใครหนอวานช่วยฉันหน่อย
    เท้าเขามีทางเดินน่าเพลินพลอย
    ให้ละห้อยอิจฉาในอารมณ์

    อยากจะมีหนทางอย่างเท้าบ้าง
    ใช่เอาอย่างแค่อยากว่าสง่าสม
    เห็นเท้าเดินได้ดีมีคนชม
    ว่าสำคัญค่าจมกว่าส่วนใด

    ขอฉันเดินบ้างเถอะนะเถอะนะ
    อยากรู้ว่ายืนเด่นเป็นไฉน
    ให้เท้ามาฉวยบ้างว่าอย่างไร
    มืออยากไปเดินย่ำสัมผัสดิน

    -ทางมือ-

    ************************

    เอาอีกแล้วเล่าหนามือเพื่อนข้า
    เอ่ยวาจาอย่างน้อยใจอีกแล้วหรือ
    มาเถิดมาฟังข้านะเจ้ามือ
    เจ้าอย่าถือคำชมอารมณ์คน

    ถึงแม้ข้าจะมีทางของข้า
    แต่ใช่ว่าข้าจะสุขทุกแห่งหน
    โคลน ดิน ฝุ่น เหนื่อยและหนักก็ต้องทน
    เพื่อพาคนสู่จุดหมายปลายเส้นทาง

    หากเจ้าถามทางมืออยู่ที่ไหน
    จะบอกให้ อยู่ใกล้ไม่ไกลห่าง
    หน้ากระดาษสีขาวที่จัดวาง
    นั่นอย่างไรคือทางให้เจ้าเดิน

    มาเถิดมาเพื่อนข้าอย่าช้าเชื่อง
    ไม่ได้ฟังเจ้าเขียนเรื่องมานานเนิ่น
    จงบรรจงให้บรรเจิดเกิดเพลินเพลิน
    กล่อมผู้คนบนทางเดินด้วยทางเรา

    -บนทางเท้า-

    :]

  76. ผมมายืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านท่านอยู่นาน ว่าจะเอาข้อความมาให้ท่านได้อ่าน
    แต่ก็ไม่เห็นว่ามีผู้ใดออกมาสักที เหลือบไปเห็นแคร่ไม้ไผ่ตั้งอยู่หน้าบ้าน
    ก็เลยขอฝากวางไว้ตรงนี้ก็แล้วกัน เผื่อท่านดินผ่านมาเห็นจะได้หยิบขึ้นอ่านโดยง่าย :]

  77. เจอะเข้าโต๊กกาใจ!
    คิดว่าเอาไงล่ะทีนี้
    เท้าคงหมั่นไส้ลีลาที่พาที
    คงอาจมีพาดก้านคอหรือจรเข้ฟาดหาง

    อ่านจบจึงได้เข้าใจ
    ช่างล้ำลึกกระไรเกินกล่าวอ้าง
    ชี้ช่องเดินบอกทางสว่าง
    ให้ก้าวย่างไปบนหนทางตน

    อืมม์..

    แต่นี้จะไม่ทะเล้น
    อวดเด่นอยากเป็นเช่นทุกหน
    เลิกไขว่หาคุ้ยควานร่านทุรน
    จะเป็นมือไปบนหนทางมือ

    นับถือ
    นับถือ

    -ทางมือ-

    ทางเท้า http://naiimootui.wordpress.com/2007/10/17/%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%b2/

  78. ไม่ได้แวะเวียนมานาน เปลี่ยนหน้าตาบ้านแล้วหรือ? หึหึ.. มาตอบคำถามที่ฝากถามท่านแสนเจ้าค่ะ

    ท่านแสนบอกว่า ท่านแสนใช้ “plug-in wordpress.org” ชื่อว่า randomize

    แต่ปกติ เท่าที่ทราบ ไม่น่าจะเอามาใช้กับ wordpress.com ได้นะท่านดิน.. แต่ท่านแสนบอกว่า ลองดูก็ได้

  79. ท่านแสนปลูกบ้านใหม่ ท่านทราบแล้วใช่ไหมเจ้าคะ? หรือว่า ที่ใหม่ คือที่ที่ท่านดิน เข้าไม่ได้?

    http://nat.myexperimentwith.com/

  80. เริ่มเมื่อยสวัสดิ์เจ้าค่ะ

    เข้าประเด็นเลยแล้วกัน มีเรื่องจะบอกสามประเด็นดังนี้
    ๑. ส่งจดหมายร้ากกกกกกไปหนึ่งฉบับ ว่างๆ ไปไขตู้ ปณ.๙ ด้วย
    ๒. ป้าโคฝากบอกมาว่า เพื่อนป้าโคอ่านต้นฉบับกระบี่ฯ ของท่านบอกว่าเขียนได้น่าอ่าน แต่ติดอยู่นิดตรงที่บางประโยคไม่รู้ว่าใครพูด อ่านแล้วงง
    ๓. กระท่อมใหม่ของท่านแต่งได้น่าอยู่ ว่างๆ มาแต่งสวนฯ ให้ข้าพเจ้าบ้างนะเจ้าคะ

    ป.ล. ใจคอจะไม่ส่งต้นฉบับจริงๆ รื้อ คนอะไรใจดำ

  81. อ้า.. ไม่ได้แวะกระท่อมพักนึง ท่านจัดข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อยงามตา สวยเก๋ไปอีกแบบครับ 🙂

  82. อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านมุกท่านจิตท่านย่า

    ๑. บ้านใหม่ท่านแสนข้าพเจ้าก็เข้าไม่ได้อีกเช่นเคย (เน็ตช่างซังกาบ๊วยเสียกระไร)
    ขอบพระคุณที่กรุณาแจ้งข่าวคราวขะรับท่านมุก
    ๒. ฝากขอบคุณทั้งป้าโคทั้งสหายป้าโคด้วยขะรับท่านย่า แล้วข้าพเจ้าจะจับยามสามตาดูให้ดี ใครพูดโดยไม่รู้ว่าใครพูดเดี๋ยวจะตีให้เข็ด
    ๓. แสดงว่าที่ผ่านมากระท่อมมันรกตาใช่ไหมขะรับท่านจิตปัน อิ อิ :/

    คารวะ

  83. ราตรีสวัสดิ์

    ท่านดินหายไปกับสายน้ำ…

    และกลับมาพร้อมสายน้ำนี้เอง

    ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

    ^.^

  84. สายน้ำหนุ่ม

    ริ้วรางพร่างพริ้วเป็นริ้วลอก
    สัพยอกลอกลมที่ห่มสาย
    ลมหยอกเหย้าเคล้าผิวเป็นริ้วลาย
    กระเพื่อมสายส่ายพริ้วเป็นริ้วคลื่น

    กระชวยชุ่มชอุ่มสายในลายเส้น
    ซ่านกระเซ็นกระเด็นสาดคล้ายวาดผืน
    นทีหนุ่มชุ่มชื่นในดื่นคืน
    มันจึงยื่นรอยยิ้มให้พริ้มจันทร์

    เพียงแม้นมองก็หมองใจเข้าในจิต
    เคยเพ่งพิจภาพเงาแลเฝ้าฝัน
    นั่งมองน้ำคราวบรรจบพลบตะวัน
    นั่งกอดกันกับนุชน้องถึงมองเดือน

    นั่นพริ้มดาวเริ่มพราวแสงอีกแรงหนึ่ง
    น้ำตาซึ้งก็ถึงคราหยาดมาเปื้อน
    คิดถึงคืนสองเรานับดาวเดือน
    เสียงน้ำเลื่อนกล่อมเพลงบรรเลงใจ

    นทีหนุ่มไหลไปถึงไหนนี่
    ฝากวจีถึงน้องยาข้าได้ไหม
    ว่าข้ารอริมฝั่งท่าอย่างล้าใจ
    เจ้าจากไกลทำใจพี่เสียยี่ยำ

    หากนุชน้องมองน้ำในยามนี้
    ขอให้มีภาพผุดพร่างของย่างย่ำฯ
    ขอให้ยินเสียงหยอกเย้าเสียงเคล้าคำ
    ที่พรอดพร่ำ “รักไม่จาง” กลางสายชล

    ด้วยความเคารพครับพี่ท่าน

    วันใหม่สวัสดิ์

    คั่นฯ

  85. ปล. กลิ่นนี้ใน”สายน้ำชรา”จัดอยู่ในรสของนิราศหรือเปล่าขอรับ รำพึงถึงนางอันเป็นที่รัก

    ด้วยความเคารพอีกคำรบ ขอรับ

    คั่นฯ

  86. ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรครับท่านดิน บัดนี้การยิงปิงของท่านได้ไปปรากฏให้เห็นเป็นสง่าอยู่ในหน้าdashboardของผมเรียบร้อยแล้ว ช่างเชื่องช้าดีแท้ แต่น่าแปลกใจทำไมถึงไม่ไปอยู่ในหน้าโพสเรื่อง”ทางเท้า”หว่า ท่านพอจะทราบหรือไม่ขอรับ :]

  87. บ่ายแล้วสวัสดิ์ขอรับสหายผู้ผ่านทางแลสหายผู้จุ้มปุ๊กอยู่บนแคร่

    ท่านภัทรขะรับ มิได้หายไปกับสายน้ำดอก แต่หายไปกับเวลาเน็ตหมด ข้าพเจ้าเผลอลืมเช็คเวลา เลยฟาดเสียหมดเกลี้ยงจานเลยขอรับ ต้องรอถึงวันสิ้นเดือนจึงจะได้คืนมา ผู้น้อยขออนุญาตหายกะลาหัวอีกสักสองสามเพลาค่ำคืนสามสิบเอ็ดตุลาฯ จึงจะกลับมาน้อมคารวะดังเดิม

    ท่านคั่นที่เคารพ ขอบพระคุณมากมายสำหรับร้อยกรองอันท่านได้เติมต่อไว้

    บ่อยครั้งที่ข้าพเจ้าฝันถึงสังคมยุคศรีปราชญ์ที่ผู้คนพูดคุยโต้ตอบกันด้วยคำสัมผัส บรรยากาศเช่นนั้นช่างชวนหลงใหลนัก สังคมเช่นนั้นไม่น่าจะเป็นอดีตกาล ด้วยคำสัมผัสยังคงอยู่ อยู่คู่กับภาษาพื้นถิ่นของเรา เมื่อคำยังอยู่ผู้คนก็ยังอยู่..แต่บรรยากาศที่ว่าไปอยู่เสียที่ใด?

    ขอโปรดรับทราบ

    ทุกครั้งที่ได้รับร้อยกรองโต้ตอบ ข้าพเจ้าได้กลิ่นไอชนิดหนึ่ง เหมือนกลิ่นฝนที่โชยมาทักทายก่อนสายฝนเยือน เป็นกลิ่นไอที่น่าอภิรมย์ยิ่ง

    ส่วนกลิ่นในสายน้ำชรา เกรงจะเป็นกลิ่นน้ำคลำ รสพร่ำบ่นเลอะเลือนของผู้เฒ่าล่วงวัยน่ะขะรับ

    การจัดหมวดหมู่ของชนรุ่นหลังเพื่อง่ายต่อการศึกษาเรียนรู้ ซึ่งก็เกิดผลดี แต่ผลข้างเคียงกลายเป็นกรอบสวมครอบความรู้ความคิดของผู้ศึกษา(รวมทั้งผู้ประสาทการศึกษา)ทำให้ไม่สามารถพบหนทางใหม่ ๆ

    “นิราศมีบทรำพึงถึงนางอันเป็นที่รัก” นั่นคือการศึกษา
    แต่หากเขียนนิราศสักบทแต่ไม่มีบทรำพึงถึงนางอันเป็นที่รัก อาจารย์จะไม่ยอมให้คะแนน..นั่นคือ ทำลายการศึกษา

    นิราศก็คือบันทึกการเดินทาง

    แต่หากเพียงพร่ำพรรณาทิวทัศน์ข้างทาง ไม่มีบทพิศวาสเสียแล้วท่านบรมครูเอกกวีศรีสุนทรเกริ่นไว้ว่าออกจะดูขาดรสชวนให้ผู้คนติดตามอ่าน จึงกระนั้นบางคราบางบทที่รจนาขณะครองสมณะเพศท่านก็ยังคงบทรำพึงสวาทแทรกไว้พอเป็นกระสาย ทั้งได้ออกตัวไว้ดังกล่าว

    ฉะนั้นหากยุคสมัยหนึ่ง ความสนใจของผู้คนอยู่ที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งแลผู้เขียนนำมาเสริมแทรกเข้าในบันทึกการเดินทางเพื่อผู้อ่านจักติดตามอย่างได้รสแล้ว นั่นย่อมเป็นนิราศ อีกทั้งยังได้สืบทอดสายธารบทประพันธ์ชนิดนี้ให้ยังคงหลากไหล

    ไม่แน่อนุชนรุ่นถัดจากเราอาจได้ร่ำเรียนว่า รสของนิราศคือบทรำพึงถึงประเทศอันเป็นที่รัก (เพราะกลับเข้าประเทศไม่ได้) (ว่าเข้านั่น!)

    ถือเสียว่าชวนคุยข้างแคร่นะขะรับท่านคั่น ขออย่าได้ถือสาหาความ

    ด้วยความเคารพอีกคำรักสงบ

    อ่า..ท่านคุณนายขะรับ

    ข้าพเจ้าคงจะปืนฝืดเอ้ย! ปิงฝืดดังว่า ยิงไปตั้งนานเพิ่งโผล่ ซ้ำยังไปโผล่ผิดที่เสียนี่
    เอ่..ท่านมุก(หากบังเอิญผ่านมา) ว่ากระไรขะรับ?
    แล้ววันดีคืนดีจะลองยิงใหม่ขะรับท่านคุณนาย

    ว่าก็ว่าเถอะ..ทางเท้าของท่านแจ่มแจ๋วจริงขอรับ จะความเรียงก็ไม่ความเรียงจะเรื่องสั้นก็ไม่เรื่องสั้น มิติซ้อนทับชอบกล

    ข้าพเจ้าเซ็ง WP ที่ไม่ยอมให้ใส่ลูกเล่นกันเอง อยากจะให้ดาวทางเท้าสักห้าดาว เพื่อที่ว่าจะได้ยุท่านต่อว่า ช่วยจัดหัวข้อบทความชวนอ่านไว้ให้ด้วยจะดีไหม? (สมมุติว่าข้าพเจ้าเพิ่งโผล่เข้าบ้านซิมของท่าน ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี บทความชวนอ่านน่าจะเป็นจุดแรกที่จะชายตามองรองจาก recent posts)

    เช่นหากเราช่วยกันกำหนดมาตรฐานเล่น ๆ ว่าบทความใดได้รับห้าดาวจากสหายห้าท่านถือเป็นบทความคุณภาพสมควรขึ้นป้ายบทความแนะนำ ผู้ผ่านไปมาจะได้ผ่านตาโดยง่ายอีกทั้งยังเป็นการเก็บเพชรน้ำงามไว้ในที่ทางอันควร

    อ่า..ว่าไปแล้ว WP ไม่ยอมให้ใช้โค้ด เราก็บอกกันด้วยอักษรก็ได้นี่นา แล้วเราก็ไหว้วานท่านขุนแสนออกแบบยี่ห้อเอาไว้พะว่าบทความนี้ได้รับการโหวดจากเหล่า..เอ่อ..อ่า..อะไรล่ะ? เอาเป็นว่า แอ๊บแบ๊วบล็อกเกอร์ (เออะ เออะ คิดอะไรไม่ออก)

    เป็นไงขะรับท่านคุณนาย..ท่านมุก..ท่านทั้งหลายที่ไม่ได้กล่าวนาม..

    อิ อิ ชักเพ้อเจ้อยกใหญ่ ฝนตกทำอะไรไม่ได้ อะนะ ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาน้ำลายเมาประจำทุกย่ำเย็น อิ อิ อิ

    คารวะขะรับ

  88. ดึกดื่นสวัสดฺขอรับพี่ท่าน

    เป็นจริงอย่างพี่ท่านว่านั่นแหละขอรับ ผมเองได้มีโอกาศรู้จักนิราศในตำราเรียนล้วนมีหลายต่อหลายทฤษฏี บ้างว่ามาจากศัพท์ “นิ” หรือ “นิร”ซึ่งเป็นอุปสรรนำหน้าคำอื่นแปลว่า “ไม่มี” แล้วจึงพฤทธิศัพท์ ทำให้เป็นเสียงยาว คือ นิรา สำหรับใช้ในคำประพันธ์เป็นกิริยา เช่น “เรียมนิราเรือนสายสวาทสร้อย” แปลว่า ไปจาก เมื่อใช้เป็นนามว่า “นิราศ” ก็หมายความว่าการพลัดพรากจากไป ไม่มีที่อยู่เป็นประจำ คำว่า นิราศ บ้างก็ว่าเป็นตัว ศ เข้าลิลิตทำนองคำอื่นๆที่ลงท้ายด้วย ศ ทฤษฎีหนึ่งเขาว่าไว้

    อีกอันหนึ่งว่าก็คล้ายทำนองเดียวกันคือ มาจากศัพท์ นิร แปลว่าไม่มี บวกกับ อาสา ที่แปลว่าความหวัง ครั้นเอามาผสมกันก็ได้คำทำนองเดียวกันคือ หมดหวัง ปราศจากความต้องการ

    ประเด็นคือ ทุกทฤษฏีเหมือนจะโยงโดยเอาหลักจากการรำพึงถึงนางอันเป็นที่รักตั้ง แล้วก็โยงคำว่านิราศโดยมีคำตอบไว้แล้ว อย่างนี้จะเรียกว่าเป็นการแต่งตามขนบหรือเปล่าขอรับพี่ท่าน คือถ้าจะแต่งเป็นนิราศก็ต้องมีบทรำพึงสอดแทรกเข้าไว้ด้วย ผมเองเคยนึกเล่นๆว่าท่านบรมครูสุนทรภู่ท่านอาจจะแต่งไปเพราะว่าเป็นคนจิตใจอ่อนไหวกับเรื่องอิสตรีเพศ ครั้นนานเข้าอนุชนรุ่นหลังๆก็เรียนเอาเป็นขนบการแต่ง ถ้าเป็นจริงอย่างนั้นบรมครูเราท่านคงจะเกาหัวแกรกๆแล้วว่า ไหงมาอ่อนไหวตามกันอย่างงี้

    อ่า ผมเพ้อเจ้อไปเรื่อยอีกแล้ว

    ด้วยความเคารพขอรับพี่ท่าน

    คั่นฯ

  89. เห็นมีชื่อตัวเอง เลยโผล่มาแพล่มๆ เสียหน่อย แหะๆ (จริงๆ คือ เพิ่งสอบไปหนึ่งตัว แล้วกำลังจะเตรียมอ่านของอีกตัว เลยพักสักเล็กน้อย.. )

    ข้าพเจ้าเข้าใจหัวอกท่านดิน หัวอกของผู้ใช้เน็ตเป็นชั่วโมง.. แต่บังเอิญ โชคดี ที่มหาวิทยาลัย มีเน็ตให้ใช้ฟรีได้ รู้สกจะ หลายชั่วโมงอยู่ต่อวัน ไอ้ข้าพเจ้าก็ต่อติดทิ้งไว้ จนมันหมดนั่นล่ะ ๕๕๕ แต่ความเร็ว “ช้าเท่าเดิม” ตามสภาพน่ะขอรับ :p

    ว่าแต่ ท่านถามอะไรข้าพเจ้าเนี่ย เห็นชื่อตัวเอง เลยโผล่มา พอโผล่มาเสร็จ จ้องไปจ้องมา.. จะตอบอะไรหว่าเรา.. ๕๕๕ งงขอรับท่านดิน

    ท่านดินจะใส่อะไรในหน้าบล็อกอีกหรือเจ้าคะ ใส่มากๆ ระวังมันรกเน้อ..

    หรือว่า แค่คิดถึงข้าพเจ้าเลยเอ่ยนาม เอิงเงย..

    อิอิ.. เดี๋ยวจะเริ่มอ่านก่อนนะเจ้าคะ อาจจะโผล่มาอีกที..

    สายๆ สวัสดิ์ขอรับ

  90. ย่ำค่ำสวัสดิ์ขะรับท่านมุกท่านคั่น

    ขอบพระคุณที่กรุณานำทฤษฎีมาจำแนกแจกแจงให้ได้เปิดหูเปิดตา ข้าพเจ้าเพิ่งรู้นะว่ามีการวิเคราะห์กันเช่นนี้ ด้วยความที่หาได้ร่ำเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราวคิดเห็นทางใดก็ไม่เกินชายขอบกะลาอันครอบศีรษะ ได้ท่านนำเรื่องราวมาแลกเปลี่ยนเช่นนี้ค่อยหูตากว้างขวางขึ้นหน่อย

    หลักสูตรการศึกษามีความจำเป็นต้องใส่กรอบเพื่อง่ายต่อการแยกแยะเล่าเรียน เพียงเราตระหนักว่านั่นคือกรอบ จากนั้นก็โดดเข้ากรอบโน้นออกกรอบนี้ เอากรอบโน้นผสมกรอบนี้ ไม่หลงติดอยู่ในกรอบจนไม่ยอมคิดหาทางออก

    แค่นี้ก็เป็นอันน่าสนุกแล้วจริงไหมขะรับท่านคั่นที่เคารพ

    อ่า..ทีนี้ท่านมุกเอิงเงย..
    จะลองทวนดู (แต่อาจจะยิ่งงงนะทั่น)

    เคยปะท่านที่ Zicker ตอนที่ท่านนำความเรียงรสเฉาก๊วยโบราณน้ำตาลอ้อยปิยมิตรไปแปะ ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นบางอย่าง..ที่ว่า ‘บางอย่าง’ เพราะคิดไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง? (แบบว่ามันปนเปน่ะขะรับ รู้สึกแต่หากจะให้บรรยายต้องมานั่งจำแนกอีกที..เคยเป็นเปล่า?)

    เอาล่ะลองจำแนกแยกแยะซิ!

    ๑.(อันนี้อย่าหมั่นไส้นะ) ดีใจยิ้มกริ่มขะรับ..ดีใจที่ท่านชื่นชมเฉาก๊วยถ้วยนั้น แต่แหมท่าน นั่นหากข้าพเจ้าไม่ไปเจอเข้าก็อดดีใจสิขะรับ

    ๒. ผู้น้อยปรุงเฉาก๊วยมั่วมาเป็นร้อยถ้วยกว่าจะฟลุคได้รสดี ๆ สักถ้วยนั้นช่างบังเอิ้ญบังเอิญยังไม่ทราบเมื่อไรจะได้อีกสักถ้วย คิดดูก็น่าจะเอาขึ้นเป็นเมนูแนะนำหน้าร้าน เผื่อลูกค้าผ่านไปมาได้ลองลิ้มชิมรส (แลผู้ปรุงนั้นพลอยได้หน้าตาบาน)

    ๓. แนวคิดของ Zicker น่าสนใจนัก! หากสมาชิกช่วยกันนำบทความดี ๆ มาลงเช่นนั้นทำให้ได้บทความคัดสรร ลดเวลาที่ต้องควานหา แต่จุดอ่อนดูเหมือนว่าจะเข้าร่วมกิจกรรมคงต้องสมัครสมาชิก(ซึ่งก็เป็นเหมือนกันทุกที่ล่ะนะ)

    ๓. จึงมาคิดขึ้นได้ว่า ในเฉพาะที่เราเห็นหน้าค่าตากันอยู่นี่ (ก็สมาชิกที่โผล่กันไปมาในบ้านเหล่าทั่นน่ะล่ะขะรับ)หากพบเจอข้อเขียนใดถูกใจเราน่าจะให้ดาวกัน ข้อความที่ได้ดาวเข้าเกณฑ์เราอาจมีเครื่องหมายกำกับ หรือมีหน้าต่างบทความแนะนำโผล่ที่ sidebar ของหมู่เฮา(ส่วนจะทำอย่างไรนั้น? อ่า..บ่ฮู้อ่ะ)

    ๔. ความคิดลูกลิงดังกล่าวข้างต้นแพลมขึ้นมาครั้งเจอ Zicker ของท่าน ครั้นมาเจอ ‘ทางเท้า’ ของท่านคุณนายเข้า จึ่งทำให้คิดถึงอีกครา ไม่อยากปล่อยให้บทความดี ๆ ถูกกลืนหายไป

    แต่ทำอย่างไรที่พอจะช่วยกันอนุรักษ์ความเรียงดี ๆ ในหมู่เฮาให้ได้คงอยู่แลแตกหน่อต่อกอเติบโตขึ้นได้ เห็นทีสอบเสร็จวันใดผู้น้อยน้อมรับความเห็นสูงส่งของท่านสักครานะขะรับท่านมุก (ไม่รู้จะกลับมาอ่านหรือเปล่า เอาเป็นได้เวลาเน็ตคืนแล้วจะนำไปแปะให้ถึงชายคาบ้านอีกที)

    น้อมคารวะ (สอบฉลุยเด้อขะรับ)

    ปล. ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องขนำจะรก เพราะข้าพเจ้าทำรกเป็นปกติวิสัยอยู่แว้วววว

  91. เกือบจะนิทราสวัสดิ์ครับท่านดิน 😉

    โอ้ อ่านแล้วทำให้อวัยวะในอกข้างซ้ายสูบฉีดดีแท้ สำหรับหลายข้อความที่ท่านกล่าวถึงทางเท้าของผม แรกเริ่มเดิมทีก่อนที่จะลงมือเขียนเรื่องนี้ ผมก็ได้ไปเดินเล่นในงานประจำปีนั้นมาจริงๆแล้วรู้สึกประทับใจกับการพาเท้าไปเดินบนทางของมัน จนอดที่จะเอามาบอกเล่าไว้ในบ้านซิมของผมไม่ได้ เลยคิดว่าจะเขียนออกมาอย่างไรให้น่าสนใจกว่าการมาบอกเล่าแบบกำปั้นทุบดินเท่านั้น มิได้เขียนขึ้นมาด้วยการรู้แจ้งในระบบระบอบใดๆเลยนะท่าน ทางเท้า ณ บ้านซิม จึงเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้แล เพราะตัวผมเองจะว่าไปก็เป็นเพียง นักอยากเขียน ที่หากแต่บทความของผมในบางครั้งอาจจะเผื่อแผ่ไปให้หลายคนได้ รู้สึก บ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก อย่างไรก็ตามแต่ คำกล่าวทั้งหลายทั้งปวงของท่าน ผมถือว่าเป็นมธุรสวาจาที่ท่านได้มอบให้ก็แล้วกัน

    ขอบคุณท่านอีกครั้ง
    คุณนายฯ :]

  92. ท่านได้รับกระบี่จากกระรอกหรือยังขอรับ

    ???

  93. อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านคุณนาย พี่ท่านประทีปะ

    หาใช่มธุรสวาจาดอกขะรับท่านคุณนาย หากแต่เป็นความรู้สึกเที่ยงแท้ที่ข้าพเจ้าสัมผัส จึงใคร่เอ่ยออกไปด้วยหัวใจดวงน้อยที่หวังจะเป็นกระจกมอซอพอจะสะท้อนภาพอะไรบางอย่างบรรณาการแด่สหายร่วมแนว

    เหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้เคยส่งแรงผลักดันให้นิ้วอันมู่ทู่ของข้าพเจ้ากระดึ๊บมา

    ข้าพเจ้ามีเรื่องเล่าเพียงเล็ก ๆ ส่งไปคุณกับท่านที่นับถือ ท่านตอบเพียงสั้น ๆ “วิธีเล่าน่าสนใจ”

    หกพยางค์นั่นกินความมากหลาย

    คล้ายจะบอก..ไม่ว่าเรื่องที่เล่าจะเป็นเช่นไร แต่หากเรานำมาจัดเรียงลำดับเสียใหม่ จากต้นไปปลาย จากกลางไปต้น หรือจากปลายไปต้น ลองเคลื่อนย้ายตำแหน่งผู้เล่าจากผมเป็นเขา จากเขาเป็นเธอ ลองหาวิธีการเล่าที่แตกต่างออกไป จนกว่าจะพบความลงตัว เรื่องเล่าธรรมดาก็อาจกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ

    นั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าสัมผัสจาก ‘ทางเท้า’
    นั่นคือมิติซ้อนทับที่เรื่องเล่าต้องผ่านการครุ่นคิดก่อนร่ายเรียงออกมา

    แน่ล่ะ..การบอกเล่าอย่างเรียบง่ายตรงไปตรงมาก็มีเสน่ห์ดุจดรุณีแรกรุ่นสดใสเป็นธรรมชาติไร้จริตมารยา น่าทะนุถนอม เพียงเราคงต้องมองให้ออกว่านางเหมาะจะเป็นเพื่อนคิด เพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน หรือ ภรรยา

    นั่นคงต้องเป็นเรื่องที่เราท่านจะต้องปวดกบาลกันเองแล้ว

    คารวะ

    XXX
    พี่ทั่น!
    ผู้น้อยจะรีบบึ่งแมงกะไซด์เข้าตลาดในบัดใจ!

    คาระบรือออออ

  94. สงสัยท่านเจ้าหอไม่ได้เปิดสารอ่าน

    ข้าน้อยส่งไปกับพิลาบเมื่อวันที่ 25 วันเดียวกับสารเดินทาง

    ถึงปลายทาง 26 เวลาบ่าย เจ้าหน้าที่การสื่อสารแจ้งอย่างนั้น

    ควบเจ้าลมกรด ระมัดระวังด้วยขอรับ

    คารวะ

  95. เย็นย่ำสวัสดิ์เจ้าค่ะ

    ช่วงนี้ อ่านอะไร ก็ยังไม่ได้ Zickr เลย.. เพราะว่าอ่านน้อยด้วย.. แหะๆ

    ๑. ท่านมี technorati นี่นา.. เดี๋ยวก็เห็นเอง มิใช่หรือ? หึหึ.. หรือว่ามันไม่ ping ไป?

    ๒. ช่วงนี้ อ่านอะไร ก็ยังไม่ได้ Zickr เลย.. เพราะว่าอ่านน้อยด้วย.. แหะๆ.. ไม่มีรสเผ็ดใช่ไหมท่านดิน .. :)))

    ๓. ถ้าไม่สมัคร แล้วจะหาตัวคน zickr ได้อย่างไร เจ้าคะ ท่านดิน

    ๔. ของ WordPress เนี่ย ให้ใช้ Digg.com ไหมเจ้าคะ? ไม่แน่ใจ อันนี้ต้องลองหา เพราะว่า Digg.com จะ inter กว่า.. เอาไปแปะหน้าโพสต์แต่ละอัน .. แต่ยังไม่เคยลองเลยเจ้าค่ะ เพราะคิดว่า ยุ่งยาก เวลาคนเขียน ต้องมาคอยแปะ

    แต่.. เอ.. มันจะเรียงลำดับให้หรือไม่นั้น.. อันนี้ ไม่แน่ใจเจ้าค่ะ..

    อืม อืม.. ถ้าทำ manual คือ เอามาใส่เอง.. ก็จะไม่ได้รับการ vote จากผู้อ่าน.. แถมยังต้องเสียเวลามา แปะๆ ต่อๆ แต่งๆ เองด้วย..

    ..
    อย่างไร เตือนข้าพเจ้าเรื่อง Digg.com อีกทีนะเจ้าคะ.. สอบเสร็จ ปิดรายงานได้ ก็อาทิตย์นี้.. อาทิตย์หน้า ก็คงพอว่างๆ ให้เตร่ๆ เล่นได้บ้างแล้วเจ้าค่ะ (ตอนนี้ ใช้เวลาก่อนเลิกงานเล่น แหะๆ)

    อ้อ.. เริ่มด้วย Zickr เลยแวะมาบอกด้วยเลยว่า Zickr ก็มี Twitter แล้วเจ้าคะ เห็นคนเขียนเว็บ ทำขึ้นมา ดังนี้

    ก็คือการดูดเอา feed rss ไปแปะบน twitter และถ้ามีใครตั้งค่า รับข้อความผ่านมือถือ ก็จะได้รับตลอด (แต่เยอะไป อาจรำคาญ และ แบตมือถือหมดได้

    ข้าพเจ้าใช้ Twitter ผ่าน Snitter อีกที

    ปล. “คาระบรือออออ” ทำให้ขำมาก.. ๕๕๕

  96. นายหมูตุ้ย

    ท่านดิน ที่อยู่ของจดหมายไฟฟ้าที่ท่านฝากไว้พร้อมกับข้อความในบ้านซิมของผม ยังใช้การได้อยู่หรือไม่ครับ :]

  97. มาเป็นคนที่ ๑๐๐ เสียเลย.. ๕๕ ท่านดิน ทำไมไ่มป๊ะท่านดิน ในก้าวฯ วันนี้ล่ะเจ้าคะ?

  98. อ้าว!~
    กลับเข้าบ้านไหง ไซด์บาร์จึ่งได้ล่วงไปอยู่ใต้ถุนบ้านเสียล่ะนั่น!
    สหายที่ผ่านไปมาขะรับ
    ระเบียงหน้ากระท่อมข้าพเจ้าโผล่ขึ้นมาครบเป็นปกติหรือเปล่าที่จอท่าน?
    รบกวนแจ้งแถลงไขทีขะรับ

    คารวะ

  99. เปลี่ยนหน้าบ้านใหม่เสียเลย…eeeeeee

  100. ๕๕๕ อ้าว ไอ้ที่มันย้ายไปใต้ถุนบ้านอย่างนั้น ท่านดินไม่ได้ตั้งใจดอกหรือ? ข้าพเจ้าเข้าบ้านท่านมาเป็นคนที่ ๑๐๐ อย่างงงๆ ว่ามาแนวใหม่..

    ลายใหม่นี้ คล้ายๆ กับของท่านโจฯ (ถ้ายังไม่เปลี่ยน) แต่ชอบรูปขอรับท่านดิน..

    มาเจิม หน้าบ้านใหม่เสียเลย.. ๕๕๕

  101. ธีมนี้มันก็เป็นอย่างนี้นะขอรับ

  102. เปลี่ยนฝากระท่อมอีกละ จำไม่ได้ เกือบเดินเลยบ้านแน่ะ

    แวะมาลาเจ้าค่ะ คงหายไปนานกว่าจะได้มานั่งจ้อเจรจา
    เมล์ท่าน ข้าพเจ้าตอบไปหลายวันแล้วนะ
    แต่ยังไม่ได้รับล่ะสิ
    ฝากไปกับบุรุษไปรษณีย์เจ้าค่ะ

    กลับมาเขียนจดหมายเหมือนสมัยยังเด็กๆ ดีกว่า
    สนุกกว่ากันเยอะเลย

  103. วันนี้ได้มีโอกาสเปิดหนังสือแนวจีนกำลังภายใน (เรียกถูกไหม) ชื่อเรื่องอะไรจำมิได้ ของ อึ้งเอ็ง สำนวนแปลของปรมาจาย์ ว ณ เมืองลุง

    เห็นภาพ เมื่อนึกถึงกระบี่–ลักษณะการเขียนหนึ่งย่อหน้าสั้น ๆ ส่วนมากบรรทัดเดียว

    กระจ่างในสำนวนบางอย่าง เช่น ท่าน มิได้ เยี่ยงไร กระไร มิทราบ มัน ฯลฯ ยิ่งมายิ่งแรง…

    ทว่าติดอยู่นิดเดียว งานท่านปรมาจารย์ไม่นิยมบรรยายอากัปกิริยาก่อนหรือหลังบทสนทนานัก หากมีก็น้อยมาก ไม่พร่ำเพรื่อ

    555 ที่ข้าน้อยเรียนถามท่านไปทั้งหมด ด้วยความด้อยอ่อนในยุทธภพนัก…

    กระจ่างแล้ว

    ด้วยจิตคารวะ

    จอมยุทธนางนวล

  104. อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านมุกพี่ท่านทีปะท่านย่า

    ท่านที่หนึ่งท่านมุก

    รูปเป็นของแถมในธีมน่ะขะรับท่านมุก เห็นเจ้ารถโกโรโกโสนี่ทีแรกข้าพเจ้าขำกลิ้ง (อุเหม่..มันช่างเหมาะเหม็งกับกระท่อมซอมซ่อเสียนี่กระไร..) แบบว่าเคยฝันใฝ่อยากอยู่อาศัยในรถขะรับ ชาวบ้านร้านตลาดต่างก็มีบ้านปูนสร้างเป็นคฤหาสถ์ยุคเรอเนซ้องส์ ไอ้ข้าพเจ้าเนี่ยทะลึ่งอยากอยู่ในเรือ ในรถ !

    ยิ่งหากเป็นรถไฟล่ะท่านเอ๋ย.ย..ย..

    ลองคิดดู..มีบ้านรถไฟสักตู้ มีตู้นอน ตู้เสบียงอยู่ในตู้เดียวกัลล์ มีโต๊ะกินข้าว โต๊ะเขียนหนังสือตรึม มีห้องน้ำพร้อมอยู่หัวตู้ท้ายตู้

    โต๊ะที่มีอยู่มากมายจะเอาไว้ทำอะหยัง?

    ก็เอาไว้ชวนเด็ก ๆ วาดรูปวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนค่ำวันศุกร์ปาร์ตี้กับสหาย (อิ อิ)

    กำลังยิ้มกริ่มฝันหวานอยู่ดี ๆ เผอิญฝนตกขะรับ ข้าพเจ้าตาลีตาเหลือกวิ่งปิดหน้าต่างเจ้าบ้านรถไฟ แล้วไม่ใช่มีบานสองบาน มีเป็นสิบ!

    ด้วยความที่รีบร้อนเลยโดนหน้าต่างหนีบนิ้วเข้าให้นะสิขะรับ ข้าพเจ้าร้องโอ้ย! ตกใจตื่น ปรากฏว่านอนละเมอกัดนิ้วตัวเอง

    หลังจากนั้นไม่เคยคิดฝันอยากมีบ้านรถไฟอีกเลยทั่น

    ส่วนบ้านเรือน่ะหรือ?…นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เอาไว้โม้ให้ฟังวันหลังขะรับ

    ท่านที่สองท่านย่า

    การโหยหาอดีตเป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับผู้จำเริญทางอายุ ข้าพเจ้ายังรู้สึกอิจฉาท่านอย่างมากมาย การได้นั่งลงเขียนจดหมายด้วยลายมือเป็นความสุขหาได้ยากนัก หวังว่าสักวันจะมีวางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป

    แต่ว่า..ท่านย่าจ๋า..

    กว่าจะได้น้อมละเลียดสายตาลายอักษรให้ศีลให้พรจากท่าน
    ผู้น้อยจะต้องไปกลับสามสิบโล !
    (แกล้งกันรึเปล่า(ฟะ)ขะรับ)

    เดินทางท่องโลกโดยสวัสดิภาพขอรับท่านย่า(ที่น่าอิจฉา)

    ท่านที่สามพี่ท่านประทีปะ

    (เห็นใบหน้านินจาของท่านแล้วช่างเหลือกำลัง..ข้าพเจ้าเห็นทีจะต้องไปหาใบหน้าฮาโตริมาเปลี่ยนแทนเจ้าบาร์ตเสียแล้ว)

    อึ้งเอ็ง เป็นสำนวนหนึ่งแนวทางหนึ่ง แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าท่านธรรมดาดั่งทอง แล ท่านมังกรโบราณ

    ทั้งหมดมีจุดด้อยจุดดีของตัวเอง สามท่านเป็นดั่งมหาสมุทรกว้างใหญ่ยากตระเวณสำรวจให้ทั่วย่านน้ำ

    ผู้น้อยเองเล่าก็แค่นักเดินเรือในลำคลอง ได้แต่ลัดเลาะอยู่ในบึงหนองกระจ้อย รู้แต่ว่ามหาสมุทรนั้นเย้ายวนใจอยู่มิใช่น้อย อยากชักใบท้าคลื่นลมสักคราก็เกรงว่าจะล่มเสียปากอ่าว จึงได้แต่เลาะฝั่งคลองร้องเพลงเรือลอยลำไปวัน ๆ

    ความอ่อนด้อยในยุทธภพที่พี่ท่านกล่าวช่วยให้เจ้ากระรอกโดดแผล็วได้อย่างสวยงาม ท่วงท่ากระชับรัดกุม บิดตัวซัมเมอร์ซอลสามตลบก่อนลงมายืนชูสองมือส่งยิ้มให้บรรดาผู้ชม (ที่เหลืออยู่ที่คณะกรรมการจะให้คะแนนแล้ว)

    คารวะ

    จอมยุทธ์กระรอกบิน

    ปล. กระจ่างจันทร์สาดส่องแสงนวลสู่หน้าต่างหัวใจที่เปิดกว้างอยู่เสมอ..

    หน้าต่างพี่ท่านเปิดกว้างเช่นนี้เอง..
    ..
    ..
    ไม่ทราบเปิดไว้โดดออกหรือโดดเข้าขะรับ ?

    เรียนถาม..
    เรียนถาม..

    อ่า..สามทั่นขะรับ

    หากผ่านทางมาอีกครารบกวนสักหน่อยเถิด คือว่าข้าพเจ้าเปิดหน้ากระท่อมธีมนี้ ( Day Dream อุเหม่..ชื่อก็ช่างเหมาะกับคนชอบนอนกลางวันเช่นข้าพเจ้านัก) บางครั้งอักษรตัวใหญ่ บางคราเป็นอักษรตัวกระจิ๊ว ไม่ทราบเกิดขึ้นกับเหล่าท่านบ้างไหม?

    รบกวนด้วย..
    รบกวนด้วย..

    คารวะ

  105. หมายถึงธีมใหม่นี้ใช่ก่ ท่านดิน?

    ขนาดตัวหนังสือใน comment โตกว่าในโพสต์เสียอีก..

    แต่นึกว่าตั้งใจให้เป็น??

  106. งง งง สวัสดิ์ครับ
    ตอนแรกที่โหลดหน้านี้อยู่ เกิดความตกใจเล็กน้อยว่า
    ผมเข้าบ้านผิดหรือไร พอโหลดเสร็จก็ถึงบางอ้อว่า
    ท่านดินเปลี่ยนหน้ากระท่อมใหม่นี่เอง

    ผมได้รับจดหมายไฟฟ้าของท่านเรียบร้อยแล้วนะครับ
    และก็ได้ทำการส่งเทียบเชิญท่านไปแล้วด้วยเช่นกัน
    เป็นหัวข้อที่ผม(คิดว่า)ท่านน่าจะพออ่านได้ในบ้านซิมของผม
    ว่างๆก็ลองไปเปิดอ่านดูนะครับ คิดเห็นประการใด
    เชิญติได้ตามใจท่านเถิด

    ขอบคุณครับ :]

  107. ปรับแก้ที่ text size หรือยัง แต่ ผมไม่ชอบตรงที่ไม่อ่านค่าเป็น ฟอนต์ tahoma

    ปล. กระจ่างจันทร์สาดส่องแสงนวลสู่หน้าต่างหัวใจที่เปิดกว้างอยู่เสมอ..

    หน้าต่างพี่ท่านเปิดกว้างเช่นนี้เอง..
    ..
    ..
    ไม่ทราบเปิดไว้โดดออกหรือโดดเข้าขะรับ ?

    เรียนถาม..
    เรียนถาม..

    * ผู้น้อยหาได้เข้าใจในคำถาม เรียนท่านชี้แนะสักครา

  108. อรุณสวัสดิ์ขะรับสองท่าน

    ข้าพเจ้าเพิ่งพบความพิเศษของงองูก็อีตอนเรียงกันสี่ตัวแล้วอ่านได้ความนี่แหละ อิ อิ รับทราบขะรับท่านคุณนาย

    พี่ทั่น! ขออย่าได้ถือสาเลยขะรับ ผู้น้อยพล่อยไปตามวิสัยปากตำแย แฮ่!

    แบบว่า บรรทัดแรกเอาจริงขอรับ ส่วนบรรทัดหลังกะสัพยอก บั้นต้นคิดถึงหน้าต่างอันเป็นแสลงหมายถึงซิป แต่คิดได้ว่าเย้าไปอาจไม่เหมาะสม เลยเปลี่ยนใหม่ โดดเข้าโดดออก แผลงเป็น โดดหนีคุณนายที่บ้านออกไปหาสาว ๆ น่ะขะรับ (อิ อิ มุกฝืดใช่เปล่า…ไม่เป็นไร ข้าพเจ้าฝืดได้บ่อย ๆ)

    แต่นิสัยเขียนแล้วไม่รู้เรื่องเนี่ย ผู้น้อยต้องขัดเกลา..ขัดเกลา..

    คารวะ

  109. อิ่มข้าวสวัสดิ์ขอรับพี่ท่าน

    แวะมาสวัสดีขอรับ

    คั่นฯ

  110. Aha! I want to tell you–

    ระวังจะกุดนาท่านกระรอกน้อย

  111. เอ่อ

    อ่า

    ท่านดินครับ
    เรียนถามขอรับ

    ก้าว ฉบับหน้ายังมีอยู่ไหม??
    ยังมีใครเขียนส่งอยูไหม??

    ดูเหมือนผมจะตกขบวนเสมอๆ
    ยัง งง งง อยู่ขอรับ

    เอิ๊กๆ

  112. ไข่เจียวพริกน้ำปลาสวัสดิ์ขอรับท่านอัม

    ว่าด้วยก้าวฯ ข้าพเจ้าคิดไปคารวะท่านถึงชานกระดองหอยทากสักครา ติดแต่ยามนี้ต้องจัดการเจ้ากระรอกให้เสร็จสิ้นเสียก่อน แล้วเพลาใดก็จะโผล่ไปน้อมคารวะทันที (คงไม่เกินเที่ยงคืนค่ำนี้)

    ส่วนที่ว่าก้าวฯยังมีอยู่ไหม?

    คิดว่ามีนะขอรับ ย่าหนุงอยากให้ฉบับอำลาเป็นฉบับครบรอบหนึ่งปี
    ดูเหมือนท่านจะคล้ายหนุ่มกรรชัยนะขอรับ ตกขบวนเสมอ ๆ (แล้วปล่อยรถไฟตบกัลล์)

    คาระเอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

  113. สวัสดีค่ะท่านดิน

    ไม่ได้แวะมาเสียนาน (ได้แต่แอบอ่านผ่านช่องลับของตัวเอง อิอิ)
    มาวันนี้ทำเอาแปลกตา .. โอ้ ว่า .. บล๊อกท่านเปลี่ยนไป๋ !!
    เห็นแล้วก็ให้นึกถึงบล๊อกของคุณไอซ์ค่ะ

    สบายดีนะคะท่าน .. 😀

    -มารดำ-

  114. เหมันต์ต้องมังสาสวัสดิ์ครับท่านดิน

    ช่วงนี้ไปบ้านไหนบ้านไหนก็ดูท่าทางจะเงียบเหงาไปทุกหลังเลยนะครับว่าไหม มาเดินเล่นผ่านมาผ่านไปแถวแคร่ไม้ไผ่หลังนี้ ก็ได้ยินแต่เสียงชวนให้เสียวอย่างเสียงลับกระบี่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จโดยเร็ววัน

    ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เพียงแค่แวะมาทักทาย แสดงตนว่ายังคงอยู่เท่านั้นเอง

    แล้วจะแวะมานั่งเล่นใหม่นะครับ
    ตอนนี้ขอกลับบ้านซิมก่อนก็แล้วกัน
    หนาวววววครับ :]

  115. เห็นท่านกำลังเกลากระบี่่อย่างขะมักเขม้น(สะกดถูกไหมท่าน)
    แตะช่วยไรไม่ได้…เลยขอนั่งเหลาขาแคร่อยู่แถวนี้ละกันนา…

  116. อ๊ะเอ๋ ตกลง เปิดบ้านนี้แล้วเหรอ ท่านดิน?

    ขอบคุณสำหรับ “เครื่องย้อมใจสบายดี!”

    ช่วยได้มากมาย

  117. เปล่าขะรับ
    ต้นปีคิดทำบล็อกฟาร์มสเตย์ชวนชาวโลกไปนอนฟังเสียงจิ้งหรีดที่ขนำ
    กะใช้ธีมนี้เลยลองดูขอรับ

    ท่านสบายดีน้า?

  118. ขะรับ สบายดี เครื่องย้อมใจ จากโดราเอดิน ช่วยได้แยะ 🙂

    ท่านจะเปิดบ้านอีกหลัง จะหรือเพียงแค่ ตบแต่งบ้านหลังเก่าเจ้าคะ? ที่ว่าจะทำ(บล็อก)ฟาร์ม เนี่ย

  119. อา..ท่านบอกสองครั้งแสดงว่าช่วยได้จริง ๆ
    ดีใจที่ท่านได้รับสารระหว่างบรรทัดขอรับ
    ..
    ..
    ข้าพเจ้ามักใช้วิธีเล่นตลก(ฝืด)ไปตามเรื่อง
    ด้วยชีวิตประจำวันข้าพเจ้ามีเรื่องชวนวิตกกังวลอยู่มากพอแล้ว
    จึ่งหวังใช้อักษรสเป็นเครื่องพักใจ
    บ่อยครั้งที่ทำเป็นเล่น..แต่สารที่ตั้งใจสื่อแฝงไว้ระหว่างบรรทัดนั้นเอาจริงเอาจัง
    น่าเสียดายที่บ่อยครั้งอีกเช่นกันสารเหล่านั้นได้แต่ระเหิดหายไปหาได้ลุถึงผู้รับสารดังหวังตั้งใจ
    ..
    ..
    ข้าพเจ้าคิดเปิดบ้านใหม่อีกหลังขอรับ(กะจะเปิดแข่งกับท่าน อิ อิ)
    เรื่องเป็นเช่นนี้ขอรับ…
    ..
    ..
    กาลครั้งหนึ่งเมื่อวานซืนนี้เอง..
    (ท่านมีเวลากี่นาที เอาเป็นว่าท่านชอบอ่านแบบไม่เกินสิบบรรทัดใช่ไหม? เดี๋ยวข้าพเจ้านับข้างบนก่อน)
    ..
    ..
    เอ้า!
    เกินสิบบรรทัดแล้ว!
    เป็นว่า..ข้างล่างนี้เก็บไว้อ่านรอบหลังก็ได้นะขอรับ
    ..
    ..
    เอาล่ะเริ่มใหม่
    ..
    ..
    เรียนท่านด้วยความเคอะเขินสุดบรรยาย–ข้าพเจ้าคิดทำบล็อกภาษาอังกฤษน่ะขอรับ ความรู้ภาษาอังกฤษจากบ้านโคกอีแร้งคอลเลจน์รึก็แค่หางอึ่งกุด ๆ ได้อ่านบล็อกท่านแล้วข้าพเจ้าตัวลีบเป็นอีแร้งเอธิโอเปีย อย่างไรก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยขอรับ หากบังเอิญมีเวลาผ่านตา ตรงไหนควรเปลี่ยนควรแก้ข้าพเจ้ามั่นใจว่าท่านจะไม่ลังเลแม้สักน้อยนีสส์ที่จะตักจะเตือน

    เรื่องมีอยู่ว่า..

    ในพื้นที่เกษตรซึ่งข้าพเจ้าฝังสังขารฝากชีวิตอยู่นี้ มีกระต๊อบเล็ก ๆ โทรม ๆ ไม่ได้ใช้งานอยู่สามหลังขอรับ ด้วยความที่ไม่มีคนอยู่หน้าฝนนี้จึงถูกปลวกรุมทึ้งไม่มีดี ข้าพเจ้าเห็นแล้วอยากตบกะโหลกตนเองว่าทำไมจึงนิ่งดูดายเสียอย่างนั้น

    คิดว่าหากสามารถใช้ประโยชน์ย่อมดีกว่าปล่อยให้เป็นอาหารปลวกเปล่า ๆ ปลี้ ๆ

    จึงคิดชักชวนชาวโลกว่ามีกระต๊อบโกโลโกโสอยู่ตรงติ่งประเทศไทย(ตรงที่ยื่นอยู่นิดในแผนที่ระหว่างอ่าวไทยกับทะเลสาบสงขลา) หากใครเต็มใจจะไปนอนฟังเสียงจิ้งหรีดจีบกัน ไปดำรงชีวิตไทยแลนด์บ้านนอกก็เรียนเชิญ อะไรประมาณนั้น!

    ยังไม่รู้จะเรียกว่าอะไรเลยขอรับ

    จะเรียกฟาร์มสเตย์ก็ดูหรูเกินไป เพราะโดยมากมีแต่ฟาร์มใหญ่ ๆ เขาทำฟาร์มสเตย์ ไอ้ข้าพเจ้ามันแค่กระต๊อบซอมซ่อ จะเรียกโฮมสเตย์ก็ไม่ได้เพราะไม่ใช่บ้าน ชื่อก็ยังคิดไม่ออก แต่กะจะเปิดบล็อกวันที่หนึ่งมกราฯ เอาฤกษ์เอาชัยขะรับ

    คิดเปิดที่ WP หวังอาศัยการเติบโตของ WP ช่วย อีกทั้งระบบที่แจ๋วแว๋ว search หาเจอง่ายคงพอช่วยเรื่อง PR ได้บ้าง

    คิดว่าจะค่อย ๆ อัพข้อมูลไปเรื่อย ๆ ตามแต่เวลาอำนวย

    ข้าพเจ้ามีปัญหาที่ยังคิดไม่ออกอยู่สองสามข้อไม่ทราบพอจะรบกวนความคิดเห็นท่านได้ไหม?

    ๑. ปัญหาใหญ่ของข้าพเจ้าเลย–กระต๊อบที่ว่าเป็นที่พักคนงานน่ะขอรับ ห้องน้ำเป็นแบบเก่าฝรั่งมาเจอโถห้องน้ำแบบนั่งยองเข้าจะไหวไหมขอรับ ท่านคิดว่าไง?

    ๒. ไม่มีความสวยงามอยู่เลยขอรับ แบบว่าคนเลี้ยงกุ้งอยู่อย่างไร? คนคิดมาพักก็อยู่อย่างนั้นล่ะ–ทีนี้ข้าพเจ้าคิดราคาไม่ถูกล่ะสิ เพราะดูสภาพโกโลโกโสแล้ว อยากให้พักฟรีเสียซ้ำ จะเฟอะฟะไปไหมหากจะทำแบบฟรีค่าที่พัก คิดแต่ค่าทรานสเฟอร์อาหารและทัวร์?

    ข้อ ๓. ยังคิดไม่ออกขะรับเอาสองข้อก่อนละกัลล์ แล้วจะตั้งใจคอยคำตอบ

    คารวะ

  120. บอกตรงๆว่าไม่เข้าใจ

    แต่จะรอติดตามนะครับท่านดิน :]

  121. อ้าว! เหรอ…
    ท่านคุณนายไม่เข้าใจ
    ก็แล้วท่านคุณมุกจะเข้าใจได้จะใดล่ะเนี่ย?
    ..
    ..
    อา..ทักษะการสื่อความนัยใจของข้าพเจ้าคงยังไม่ถึงไหนสักทีนะท่านนะ 😦

    คารวะ

  122. Hut and Heart ดีไหมท่านดิน?

    กระท่อมรัก จากหัวใจ
    แม้อยู่ไกล ยังคิดถึง
    ห่างไกล ยังคำนึง
    ยังคำนึง ถึงเรื่อยไป

    อิอิ ;p

    ข้าพเจ้าก็พอเขียนภาษาปะกิดได้ เพราะเรียนมา ไอ้ครั้นจะเก่ง อย่างเจ้าของภาษา คงยังอีกไกลนัก สมองไม่ค่อยยอมจำคำศัพท์ใหม่ๆ สักเท่าไรเลย ตั้งแต่โตขึ้นมา

    ว่าแต่ ท่านเขียนที่ใดล่ะเนี่ย ไม่เป็นบอกไว้.. ถ้าเปิดบ้านเมื่อใด บอกนะขอรับ เพราะช่วงนี้ปิดเทอม ว่างระรานบ้านต่างๆ แน่นอน และเผื่ออยากได้คนวิจารณ์ การตบแต่งบ้านน่ะเจ้าค่ะ

    ตอบคำถามสักหน่อย

    ๑. ห้องน้ำอนุรักษ์ ฝรั่งคงเข้าใจเจ้าค่ะ ขอให้สะอาด และบอกวิธีใช้ ได้ชัดเจน เพราะฝรั่งที่เลือกเที่ยวแบบนิเวศน์ ก็คงไม่คิดเอาของ modern modern เข้าไปแทรกดอกขอรับ

    ๒. ไม่งาม แต่ให้สะอาด แล้วมี options ที่น่าสนใจ ก็คงพอใช้ได้แล้วเจ้าค่ะ เที่ยวแบบอนุรักษ์นั้นแล

    อืม.. ราคาหรือ? อันนี้ ต้องถามนักการตลาดไหมเจ้าคะ แบบว่า ข้าพเจ้าไม่ถนัดเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างแรง โง่ก็ว่าได้ ๕๕๕

    .. ข้าพเจ้าตอบคำถามไหมเจ้าคะ? แหะๆ :)))

    ปล. ปิดเทอมแล้วววววววววว สอบเสร็จแล้ว แม้จะแย่กว่าที่คิด นิดหน่อย.. ปัจจัยหลายอย่างสร้างปัญหา เฮ่อ.. แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป.. จะขอเอา “เครื่องย้อมใจสบายดี” มาใช้อีกสักครานะเจ้าคะ.. ไม่คิดตังค์นะ?

  123. กระท่อมรัก จากหัวใจ
    แม้อยู่ไกล ยังคิดถึง
    ห่างไกล ยังคำนึง
    ยังคำนึง ถึงเรื่อยไป

    ^
    ^
    ไอ้หยา เพิ่งเห็นว่าใช้คำซ้ำติดกัน แหะๆ เอาใหม่ๆ

    กระท่อมรัก จากหัวใจ
    แม้อยู่ไกล ยังคิดถึง
    ห่างไกล ยังคำนึง
    ส่งใจถึง เธอเรื่อยไป

    เอาอย่างนี้ละกัน

  124. อา..สมที่รอคอย

    “ไม่งามแต่ขอให้สะอาด”

    ขอบคุณทั่นมั่กมั่ก
    ..
    ..
    ข้าพเจ้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยขอรับ
    คิดว่าจะใช้บล็อก WP นี่ล่ะแต่เป็นฝั่งภาษาอังกฤษ
    ค่อยคิดค่อยเขียนไปเรื่อย ๆ
    ประมาณว่า โพสท์แรกอาจได้แต่ชื่อ
    แล้วทะยอยเติมข้อมูลทีละโพสท์ละโพสท์
    สองสามวันสี่ห้าวันสักโพสท์สะสมไปเรื่อย ๆ (ยุทธการกระปุกออมสิน อิ อิ)
    ..
    ..
    เป็นเรื่องราววิถีชีวิตผู้คนละแวกลุ่มทะเลสาบขอรับ
    ..
    ..
    ข้าพเจ้าอยากนั่งเล่าให้ท่านฟังยาว ๆ เหลือเกิน เผื่อท่านให้มุมคิดแตกต่าง แต่ก็เกรงรบกวนเวลาแลสายตาท่านเกินไป เอาไว้ค่อยคุยค่อยถามไปทีละอย่างสองอย่างก็ดี
    ..
    ..
    อ้อ! ไฮกุของท่านน่ะ ใช้คำซ้ำก็ไม่เลวนะขอรับ (ท่านลองอ่านดูอีกที)
    ดูดีเสียซ้ำหากเราใช้โดยเจตนาเพื่อย้ำความหมาย เห็นด้วยไหม?

    ว่าแต่ท่านคำนึงถึงกระท่อมหาได้คำนึงถึงเจ้าของบ้างฤาขะรับ?
    ข้าพเจ้าจะเผามันเดี๋ยวนี้แหละ ฮึ! 😦

    คารวะ

  125. สวัสดีครับท่านดิ….

    ผมมาขัดจังหวะอันใดหรือไม่หนอ

    เอ่อ งั้นวันนี้ขอตัวก่อนก็แล้วกันนะท่าน

    แหม..ไม่ต้องเขิลจนหน้าแดงขนาดนั้น อิอิ

    ไปละ ฟิ้ววววว….

    :]

  126. เข้ามาเยี่ยมงวดนี้ เห็นอะไรแปลกตาแปลกหูเยอะเลยครับ สงสัยต้องหาเวลาว่างๆมาเดินเล่นให้ทั่วสักวันเต็มๆ 🙂

  127. ๕๕๕ อรุณสวัสดิ์ เจ้าค่ะ ท่านดิน..

    ปิดเทอมแล้ว เย้ๆ หากท่านมีเวลาพิมพ์ถามอะไร แนวๆ นี้ ข้าพเจ้าพอจะออกความเห็นได้อยู่.. ตอนนี้ตอบยาวๆ ได้แล้ว.. จะว่างถึงแค่วันที่ ๑๐ มกราคม ก่อนโรงเรียนเปิดอีกหน..

    ว่าแต่ ท่านก็ยังไม่ได้คิดชื่อบ้านด้วยหรือเปล่าหนอ?

    “เรื่องราวของชีวิต จากริมทะเลสาบเมืองไทย”

    ไฮกุ คืออะไรหรือท่านดิน (เข้าใจว่าในที่นี้ คือกลอน).. ซ้ำคำก็ดี เพียงแต่ว่าข้าพเจ้าว่า มันซ้ำกันใกล้ไปนิด แถมซ้ำทั้ง ๓ พยางค์ เลยว่าแหม่งๆ แต่ถ้าท่านชอบ ก็ดีเจ้าค่ะ :p

    กระท่อมรัก จากหัวใจ
    แม้อยู่ไกล ยังคิดถึง
    ห่างไกล ยิ่งคำนึง
    เฝ้านึกถึง ไม่ห่างใจ

    ..
    .

    (แล้วคิดว่า วรรค ต่อไป น่าจะขึ้น ด้วยคำว่า “ใจ” แต่แต่งไม่ออก สมองตัน ณ เช้านี้ ๕๕)

  128. แกงคั่วสวัสดิ์ขอรับท่านมุก

    โอ..คิดชื่อให้ด้วย..ขอบพระคุณขอบพระคุณ
    ..
    ..
    ไฮกุไม่ใช่กลอนขอรับ..
    เป็นบทกวีสั้น ๆ ที่พระเซ็นทางญี่ปุ่นนิยมเขียน
    ..
    ..
    โอ..ท่านจิตขออย่าได้กระทำเยี่ยงนั้นเป็นอันขาด
    หากใช้เวลาหนึ่งวันที่กระท่อมต้องเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุเป็นแน่ (อย่าเชียวนาทั่น)
    ..
    ..
    ทั่นคุณนายที่เคารพเดี๋ยวข้าพเจ้าจะลองลบโทนแดงในavatar ออกสักหน่อย เอาแบบพอจะชมพูชมพูดีไหม? อิ อิ อิ อุเหม่..ทั่ลล์ล่ะก้อ 😉

    เมอร์รี่คริสต์มาสขอรับทุกท่าน

  129. Red Heart in Rest Hut

    อิอิ มันแว่บมาในหัวเจ๋ย เจ๋ย :]

  130. แล้วก็ Red Cross เลยละกัน.. ๕๕๕

    แวะมาป่วน ให้ปวดหัวใจ จึ๋ง จึ๋ง

  131. Red Rabel ด้วย ฮิ ฮิ ฮิ จ๊ะอึ๋ย! จ๊ะอึ๊ย!

  1. Pingback: หัวใจเจรจา « thank you นกพรายแสง

ส่งความเห็นที่ ประทีป จิตติ ยกเลิกการตอบ